ระเบียงรถใหม่
Subaru Forester ปรับโฉมแล้วในญี่ปุ่น

Subaru Forester รุ่นปัจจุบันเป็น Generation ที่ 5 ถูกเปิดตัวครั้งแรกใน ปี 2018 ล่าสุด Subaru ในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการปรับโฉม Forester แบบ Minorchange ไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา
โดย Subaru Forester Minorchange มีความคล้ายคลึงกับ Subaru Levorg โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยมีกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยม รับกับกันชนหน้าทรงสปอร์ท ที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีความโดดเด่น และสะดุดตากับไฟหน้า LED และไฟ Daytime รูปเลข 4 แนวนอน
แต่ด้านท้ายยังคงเดิม เป็นไฟ LED รูปตัว C และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 10 สี พร้อมแนะนำ 3 สีใหม่ อย่างสีเขียว Cascade Green Silica, สีเขียว Autumn Green Metallic และสีบรอนซ์ Brilliant Bronze Metallic
ห้องโดยสารถูกปรับปรุงด้วยวัสดุใหม่ สวิทช์การทำงานของเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-Zone เบาะนั่งสีทูโทน โดยมีสีดำตัดกับสีน้ำตาล ในส่วนของวัสดุหุ้มเบาะจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน มาตรวัดสไตล์สปอร์ท จออินโฟเทนเม้นท์ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพอร์ตชาร์จ USB
ขุมพลังเวอร์ชันญี่ปุ่นเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Boxer เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร แบบฉีดตรง Direct Injection Turbo ให้กำลังสูงถึง 177 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติใหม่ Lineartronic CVT 8 จังหวะ
และยังมีเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid e-Boxer แบบ Direct injection พร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS) ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 196 นิวตัน-เมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 16.7 แรงม้า แรงบิด 66 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Lineartronic CVT 7 จังหวะ
โดยทุกขนาดเครื่องยนต์มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical All-Wheel Drive เสริมด้วยระบบ X-MODE สำหรับใช้บนเส้นทางทุรกันดารที่ยากลำบากมากขึ้น ช่วยในการควบคุมเครื่องยนต์ ระบบส่งถ่ายกำลังทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถในทางโค้งได้อย่างมั่นใจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบ Eyesight เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่มีมุมมองกล้องที่กว้างขึ้น และแม่นยำมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม อีกทั้งยังปรับปรุงการทำงานของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติตามคันหน้าให้มีความนุ่มนวล และปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย
ระบบ e-Active Shift Control ซึ่งจะช่วยควบคุมการตอบสนองของตัวรถให้เหมาะสมตามแต่ละสภาวะการขับโดยอัตโนมัติ เช่น ลดเกียร์เพื่อชลอความเร็วก่อนเข้าโค้ง, รักษารอบเครื่องยนต์ขณะใช้เกียร์ต่ำในโค้ง รวมถึงจังหวะเติมคันเร่งในขณะออกโค้ง หรือการควบคุมรอบเครื่องยนต์ และเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมในขณะลงทางลาดชัน
โดยในตลาดญี่ปุ่นมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ Touring, X-Break, Advance และ Sport สำหรับในเมืองไทยคาดการณ์ว่า Subaru Forester รุ่นปรับโฉมนี้ มีโอกาสนำเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เทอร์โบ เข้ามาจำหน่ายภายในปีนี้ จะเป็นจริงแค่ไหน ต้องคอยลุ้นกันครับ 

