ธุรกิจ
Suzuki XL7 กวาดยอดขาย 4,117 คัน
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอกซ์แอล 7) เจาะตลาดเซกเมนท์ใหม่ในประเทศไทย ชูความเป็นรถสปอร์ทครอสส์โอเวอร์ ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า คุ้มราคา นำเสนอแก่ลูกค้าที่นิยมความแตกต่าง ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่รวมไปได้มากกว่า 4,117 คัน พร้อมเดินหน้าสร้างประสบการณ์ “Think XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร”
วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขาย และการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการแนะนำ All New Suzuki XL7, Multi-Dynamic Crossover ออกสู่ตลาดประเทศไทย นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ Suzuki ที่ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด Suzuki XL7 ถูกออกแบบ และพัฒนา ด้วยแนวคิด Think XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต คำนึงถึงทุกฟังค์ชันการใช้งานอย่างครบครัน นำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง โดยจุดเด่นสำคัญ คือ เป็นรถยนต์ครอสส์โอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่สามารถใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่โดยสาร ตัวรถถูกออกแบบให้มีความสูงขึ้น เพื่อให้สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทาง เหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทั้งในเมือง และนอกเมืองเป็นอย่างดี ครบครันด้วยฟังค์ชันการใช้งานเหนือระดับ ในราคาที่ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่าย
โดยหากดูในช่วงไตรมาสแรก (เดือนมกราคม-มีนาคม) ของปี 2564 ภาพรวมของกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก สร้างตัวเลขยอดขายรวมอยู่ที่ 2,373 คัน สำหรับ Suzuki XL7 มียอดขายรวมอยู่ที่ 981 คัน ขึ้นแท่นครองอันดับ 1 ในเซกเมนท์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 41.3 %
วัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา Suzuki XL7 ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ที่มอบความแตกต่าง และเพียบพร้อมไปด้วยความโดดเด่น ทั้งดีไซจ์นอันเป็นเอกลักษณ์ สปอร์ทเข้ม ดุดัน ทันสมัย ไปจนถึงเรื่องของความคุ้มค่า คุ้มราคา จนสามารถสร้างยอดขายรวมพร้อมส่งมอบนับตั้งแต่เปิดตัว จนถึงเดือนพฤษภาคม 2564 ไปแล้วกว่า 4,117 คัน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า Suzuki XL7 สามารถตอบโจทย์ และสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว สิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน คือ เป็นรถที่มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี จนสามารถสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมามียอดเฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 คัน/เดือน
อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จนส่งผลต่อยอดขายรถยนต์ที่ปรับตัวลดลง แต่ความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อ Suzuki XL7 จึงสามารถสร้างยอดจองเข้ามาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางบริษัทฯ พร้อมเร่งรัดดำเนินการส่งมอบรถทุกคัน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกรายของ Suzuki
ทั้งนี้ Suzuki XL7 ทรงพลังกับเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิด 14.1 กก.-ม. (138 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รตน. พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ปรับตั้งประสิทธิภาพเครื่องยนต์ และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะแก่การขับขี่อย่างลงตัว ผสานกับพแลทฟอร์ม Heartect เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Suzuki ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว สนุกสนาน ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ดีไซจ์นภายในบริเวณคอนโซล ด้านหน้าสไตล์สปอร์ทตกแต่งวัสดุด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมคิ้วโครเมียม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับการใช้งานอย่างครบครัน อาทิ มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น Driving G-Force อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราแรงบิด กำลังของเครื่องยนต์ และข้อมูลอื่นๆ ที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และสนุกในทุกสภาวะถนน ทั้งยังเชื่อมต่อกับความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียง และประมวลผลในแบบดิจิทอล (Digital Sound Processor) เพิ่มมิติ และความสุนทรีย์ให้แก่เสียงเพลง พร้อมฟังค์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay, Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว
ระบบช่วงล่างได้รับการออกแบบ และปรับแต่งอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดี สร้างความมั่นใจในทุกสภาวะถนน กับเหล็กกันโคลงด้านหน้า (Front Stabilizer) ขนาดใหญ่พิเศษ ลดอาการโคลงของตัวรถ และเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรค ABS ช่วยป้องกันล้อลอคขณะเบรคกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรคได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง Module ในพวงมาลัยที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้เข้าโค้งได้แม่นยำ
รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control), จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether, กล้องมองภาพพร้อมเซนเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลังได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
Suzuki XL7, Multi-Dynamic Crossover มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีส้ม Rising Orange Pearl Metallic (ZZY), สีเทา Metallic Magma Gray (ZYZ), สีขาว Pearl Snow White (ZQZ) และสีดำ Cool Black Metallic (ZBD) Suzuki พร้อมมอบสุดยอดความคุ้มค่าให้ผู้ที่สนใจได้เป็นเจ้าของ Suzuki XL7 ได้ง่ายยิ่งขึ้นกับราคา 779,000 บาท (สีขาวเพิ่ม 5,000 บาท) พร้อมแคมเปญพิเศษสุดตั้งแต่วันนี้-31 กรกฎาคม 2564 นี้ รับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 1.99 % (ดาวน์ 25 % ผ่อน 48 งวด) ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. เป็นระยะเวลา 3 ปี
Suzuki ยังคงยึดมั่นในปรัชญาของ Suzuki คือ ผลิตสินค้าที่มีคุณค่าเหมือนว่าเราคือผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพงานบริการของโชว์รูมผู้จำหน่าย และศูนย์บริการรถยนต์ Suzuki ครอบคลุมทั่วประเทศ อีกทั้ง Suzuki เตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั้งหมดเป็น 140 แห่งทั่วประเทศ ภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่านได้มั่นใจ และเป็นครอบครัวเดียวกันกับ Suzuki สอดคล้องกับความตั้งใจของ Suzuki ในการจัดทำโครงการ “Suzuki Cause We Care-เหนือกว่าความใส่ใจ คือ ความเข้าใจทุกความต้องการ” ซึ่งนอกเหนือจากความต้องการที่จะสื่อสารกับลูกค้าทั้งด้านสินค้า และงานบริการได้อย่างทันท่วงที และมอบบริการที่ดีเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ในยุคที่การสื่อสาร และการรับรู้ข้อมูลข่าวสารสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และไร้ขีดจำกัด ยังเป็นแนวคิดภายใต้หลักการสำคัญว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตได้หากมีการช่วยเหลือเกื้อกูลชุมชน และสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มา และความตั้งใจในการเข้าไปสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงที่สังคมกำลังเผชิญปัญหาจากไวรัส COVID-19 อยู่ในขณะนี้ โดยการจัดทำรถ Suzuki Carry Biosafety Mobile Unit อีกทั้งการเชิญชวนลูกค้าเข้ารับบริการทำความสะอาดรถ และฆ่าเชื้อโรคฟรี เมื่อนำรถเข้ารับบริการที่โชว์รูมรถยนต์ Suzuki เพื่อมอบความปลอดภัย และความมั่นใจกับลูกค้า Suzuki
Suzuki จะยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือแก่สังคมในยามวิกฤตตามแนวทางของโครงการ “Suzuki Cause We Care” โดยโครงการนี้ Suzuki กำหนดให้ผู้จำหน่ายรถยนต์ Suzuki ทั่วประเทศ ดำเนินการเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งสิ่งที่เรามุ่งมั่น และต้องการสื่อสารไปยังลูกค้า และพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่าเราไม่ใช่แค่เพียงผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ แต่เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการอยู่คู่เคียงข้างชุมชน และสังคมไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ดังนั้น จะเห็นได้ถึงความตั้งใจจริงของเราว่า Suzuki ไม่ได้มุ่งหวังแค่จะสร้างยอดขายให้เติบโตเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการที่จะสร้างให้ Suzuki เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือ และไว้วางใจเดินคู่เคียงข้างคนไทยต่อไปในอนาคต
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/371869