Great Wall Motor (กเรท วอลล์ มอเตอร์) เตรียมเปิดโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) แห่งแรกของภูมิภาคอาเซียนในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง ที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันล้ำสมัยควบคู่กับระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green) พร้อมตอกย้ำความมั่นใจในการผลิต และส่งมอบรถยนต์คุณภาพให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสในเร็วๆ นี้
ภายใต้การดำเนินงานตามกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ (Globalization Strategy) Great Wall Motor เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ช่วงกลางปี พศ. 2563 และมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของการผลิต Great Wall Motor ได้เข้ามาดำเนินการปรับปรุง และอัพเกรดระบบของโรงงานระยอง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พศ. 2563 ด้วยการนำเครื่องจักร และนวัตกรรมอันล้ำสมัยเข้ามาติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง (Powertrain Technologies) นวัตกรรม และเทคโนโลยีระบบการผลิตอัตโนมัติอย่าง AI (Artificial Intelligence) พร้อมเทคโนโลยีหุ่นยนต์จากประเทศจีน รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ ความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการผลิตรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่บุคลากรไทยให้สามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มศักภาพ และมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับ และพัฒนาโรงงานระยองสู่การเป็น “Smart Factory” หรือ “โรงงานอัจฉริยะ” ตามมาตรฐานโรงงานของ Great Wall Motor ทั่วโลก ได้อย่างสมบูรณ์
ด้วยระยะเวลาเพียง 7 เดือน Great Wall Motor พร้อมแล้วที่จะเปิดโรงงานอัจฉริยะแบบเต็มรูปแบบแห่งแรกของภูมิภาคเอเซียนในประเทศไทย โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มิถุนายน พศ. 2564 ที่โรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง เพื่อประกาศความพร้อมการเดินสายการผลิตด้วยมาตรฐานระดับโลก ที่สามารถรองรับกระบวนการที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตรถยนต์เพื่อพร้อมส่งมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งโรงงานของ Great Wall Motor ที่จังหวัดระยองนี้ จะมีกำลังการผลิตแบบเต็มกำลังอยู่ที่ 80,000 คัน/ปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคนี้ โดยจะมีสัดส่วนของการผลิตและส่งออกอยู่ที่ 60:40 กล่าวคือ จะจำหน่ายภายในประเทศ 60 % และจะเป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา 40 %
ในปัจจุบัน Great Wall Motor มีโรงงานผลิตเต็มรูปแบบรวมทั้งสิ้น 12 แห่งทั่วโลกรวมโรงงานที่จังหวัดระยองในประเทศไทย และมีโรงงานแบบ KD (Knock Down) อีก 5 แห่งนอกประเทศจีน โดยแต่ละโรงงานจะมีกำลังการผลิต เทคโนโลยี และความโดดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ในแต่ละประเภทและแต่ละภูมิภาคที่ต่างกัน อาทิ โรงงานอัจฉริยะในเมือง Chongqing ประเทศจีน จะมีหุ่นยนต์อัจฉริยะปฏิบัติการเกี่ยวกับการเชื่อม และพ่นสี เน้นการผลิตรถกระบะ P Series (พี ซีรีส์) และ Haval (ฮาวัล) หรือโรงงานอัจฉริยะในเมือง Taizhou ที่มีการจัดตั้งสมาร์ทพาร์คเชื่อมโยงระบบข้อมูลอัจฉริยะที่มีการประสานงานอย่างครอบคลุมตั้งแต่การวิจัย การผลิต การจัดหา การตลาด ทรัพยากรบุคคล การเงิน เข้าด้วยกัน และใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ ORA Good Cat (ออรา กูด แคท) เป็นหลัก เป็นต้น นอกจากการตั้งฐานการผลิตในภูมิภาคสำคัญต่างๆ ทั่วโลกแล้ว Great Wall Motor ยังมีเครือข่ายศูนย์วิจัย และพัฒนากว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก เพื่อเฟ้นหา และพัฒนาเทคโนโลยีด้านยานยนต์ใหม่ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการผลิตรถยนต์ให้ทันสมัย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) Great Wall Motor ยังคงเดินหน้าพัฒนาคุณภาพของรถยนต์อย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งด้านการสร้างโรงงานการผลิตที่ได้มาตรฐาน การพัฒนาฝีมือ ทักษะ และความเชี่ยวชาญของทีมงาน ตลอดจนการลงทุนด้านการวิจัยต่างๆ และการเปิดโรงงานอัจฉริยะในจังหวัดระยอง ประเทศไทยนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Great Wall Motor ประเทศไทย ในการช่วยยกระดับเศรษฐกิจองค์รวม การเพิ่มอัตราการจ้างงานให้แก่คนไทย รวมไปถึงการนำอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (XEV) ของไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ Great Wall Motor
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ