เริ่ม 19 กพ. เป็นต้นไป ทำใบขับขี่ใหม่ หรือต่ออายุ ต้องมีใบรับรองแพทย์ตามแบบที่กำหนด ในทุกกรณี วันนี้ (12 กพ.) จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามกฎกระทรวงการขอและการออกใบอนุญาตขับรถ และการต่ออายุใบอนุญาตขับรถ พศ. 2563 ซึ่งมีผลใช้บังคับในวันที่ 19 กพ. 2564 เป็นต้นไปนั้น กำหนดให้การขอรับ และต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ต้องมีเอกสารใบรับรองแพทย์ประกอบการดำเนินการทุกกรณี ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวเป็นระเบียบเรียบร้อย กรมการขนส่งทางบกจึงออกระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ และบัตรประจำตัวคนขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พศ. 2564 และระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการต่ออายุใบอนุญาตผู้ประจำรถ พศ. 2564 ตั้งแต่วันที่ 19 กพ. 2564 เป็นต้นไป ผู้ที่ต้องการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตผู้ประจำรถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกชนิด ทุกประเภท ต้องมีเอกสารใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินการทุกครั้ง ประกอบด้วย "การขอใหม่" กรณีไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตผู้ประจำรถมาก่อน "การเปลี่ยนชนิด" "การต่ออายุ" และ "การเปลี่ยนประเภท" โดยใบรับรองแพทย์นั้น ต้องเป็นไปตามแบบมาตรฐานของแพทยสภา มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ผู้ขอรับรองสุขภาพตนเอง และส่วนของแพทย์ตรวจรับรอง ซึ่งต้องแสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัว หรือสภาวะของโรคที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่า อาจเป็นอันตรายขณะขับรถตามที่แพทยสภากำหนด การต่ออายุใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตผู้ประจำรถ ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก เดิมทีไม่มีการกำหนดให้ใช้เอกสารใบรับรองแพทย์ แต่ด้วยข้อเท็จจริงสมรรถภาพของร่างกายของผู้ขับรถ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น และอาจมีโรคประจำตัว หรืออาจมีเหตุให้สมรรถภาพของร่างกายบกพร่อง จนไม่สามารถขับรถได้ จึงจำเป็นต้องกำหนดให้ผู้ขับรถเข้ารับการตรวจรับรองจากแพทย์ก่อนเบื้องต้น และมีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายที่จำเป็นต่อการขับรถ เมื่อมาติดต่อที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง ประกอบด้วย "การทดสอบการมองเห็นสี" "การทดสอบสายตาทางลึก" "การทดสอบสายตาทางกว้าง" และ "การทดสอบปฏิกิริยา" สำหรับใบรับรองแพทย์ตามแบบที่แพทยสภารับรอง โดยผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตผู้ประจำรถ สามารถแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอรับใบรับรองแพทย์ เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์ให้ถูกต้องตรงกับวัตถุประสงค์การนำไปใช้ และเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด และในอนาคตอาจมีการกำหนดสภาวะโรค "ต้องห้าม" ในการขอรับใบอนุญาตขับรถเพิ่มเติมหรือไม่ กรมการขนส่งทางบกจะประสานความร่วมมือกับแพทยสภาอย่างใกล้ชิดต่อไป
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ ทำ-ต่อใบขับขี่ ต้องมีใบรับรองแพทย์
บทความแนะนำ คอลัมน์ เรื่องน่ารู้