ธุรกิจ
Mercedes-Benz แนะนำ GLS 350 D 4MATIC AMG Premium
Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) ก้าวข้ามทุกบรรทัดฐานความหรูหราของการสร้างสรรค์รถยนต์ SUV ระดับพรีเมียม เปิดตัว GLS 350 D 4MATIC AMG Premium (จีแอลเอส 350 ดี 4 เมทิค เอเอมจี พรีเมียม)” สุดยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมียม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่ง รุ่นประกอบในประเทศใหม่อย่างเป็นทางการ ผสานความหรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับรถยนต์ Mercedes-Benz ตระกูล S-Class (เอส-คลาสส์) เข้ากับความแข็งแกร่ง และอเนกประสงค์ในแบบรถยนต์ SUV ที่เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมในประเทศไทยพร้อมตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์ SUV ระดับพรีเมียมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
โรลันด์ โฟลเกร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2564 นี้ Mercedes-Benz พร้อมย้ำความมุ่งมั่นที่เรามีต่อตลาดรถยนต์พรีเมียมในประเทศไทย โดยเฉพาะเซกเมนท์รถยนต์ SUV ที่เรามองเห็นความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ด้วยการเปิดตัว “Mercedes-Benz GLS 350 D 4MATIC AMG Premium” รุ่นประกอบในประเทศอย่างเป็นทางการ โดยนอกจากจะเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมียม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่งรุ่นประกอบในประเทศ ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่ไม่ประนีประนอมทั้งในเรื่องของความหรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับรถยนต์ Mercedes-Benz ตระกูล S-Class และการสร้างสรรค์รถยนต์สายพันธุ์ SUV ที่มีความอเนกประสงค์ และแข็งแกร่ง พรั่งพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่ง Mercedes-Benz มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าที่กำลังมองหายนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ตอบทั้งโจทย์ด้านความหรูหรา และความแข็งแกร่งในแบบ SUV
Mercedes-Benz GLS 350 D 4MATIC AMG Premium คือ สุดยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์พรีเมียม (Large Full-Size SUV) แบบ 7 ที่นั่งรุ่นประกอบในประเทศใหม่ ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสาร ความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ ดีไซจ์นที่มีความสง่างาม และความหรูหราเหนือระดับเช่นเดียวกับ Mercedes-Benz ตระกูล S-Class พร้อมทั้งความแข็งแกร่ง และอเนกประสงค์ในแบบรถยนต์ SUV ที่เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ให้การขับขี่แบบ Off-Road ที่ดีที่สุด โดยมาพร้อมขุมพลังดีเซลขนาด 2,925 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม. ที่ 1,200-3,200 รตน. ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7 วินาที การขับขี่ยังมอบความเพลิดเพลิน และราบรื่นด้วยระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้รวดเร็ว และนุ่มนวล พร้อมประหยัดเชื้อเพลิงกว่า 6.5 %
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Full Time” แบบ 4MATIC ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมรถ และการทรงตัวบนถนนที่เปียกลื่น รวมถึงการขับขี่บนทางแบบ Off-Road ให้คุณสามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างเฉียบคม มั่นใจ และให้ความนุ่มนวลตลอดการเดินทางในทุกสภาพถนนด้วยระบบช่วงล่างแบบ AIRMATIC และเป็นครั้งแรกที่จะได้พบกับฟังค์ชันเตรียมรถเข้าสู่เครื่องล้างอัตโนมัติ โดยจะทำงานอย่างสอดคล้องร่วมกับระบบ AIRMATIC เพียงสั่งงานผ่านหน้าจอ Media Display
ดีไซจ์นภายนอกมีจุดเด่นที่เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ Multi Beam LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ Ultra Range High Beam ที่สามารถปรับความเข้มของแสง และความยาวของลำแสงได้อิสระจากกัน โดยมีระบบตรวจจับวัตถุที่คำนวณความสว่างอัตโนมัติ และไฟท้ายแบบ LED พร้อมล้ออัลลอยน้ำหนักเบาดีไซจ์นสปอร์ทจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ 21 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Panoramic Sliding Sunroof) ที่เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มสุนทรียะในการขับขี่
ภายในห้องโดยสารซึ่งรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ท่าน ได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวาง และสะดวกสบายมาตรฐานเดียวกับ S-Class ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 60 มม. จึงมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้าง และโปร่งสบายขึ้น โดยเฉพาะที่นั่งแถว 2 ที่สามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกตำแหน่งที่นั่งได้ และยังสามารถปรับเลื่อนเบาะถอยหลังได้ถึง 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับวางขา โดยพนักพิงสามารถปรับเอนได้มากกว่าเดิม ส่วนเบาะที่นั่งแถวที่ 3 เป็นที่นั่งแบบ Full-Size รองรับผู้โดยสารที่มีส่วนสูงได้ถึง 194 ซม. พร้อมระบบ Easy-Entry ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้เบาะ และพนักพิง ของที่นั่งแถว 2 สามารถพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้เข้าสู่ที่นั่งแถว 3 ได้ง่ายดายขึ้น ทั้งนี้ เบาะที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถพับได้อย่างอิสระ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย และเพิ่มพื้นที่ความจุสำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร ตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความกว้างขวางตามแบบฉบับยานยนต์อเนกประสงค์
ในห้องโดยสารยังเพิ่มสุนทรียภาพด้วยระบบไฟส่องสว่างแบบ Ambient Light ที่มีให้เลือกถึง 64 สี โดย Mercedes-Benz GLS 350 D 4MATIC AMG Premium ยังมาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากมาย โดยเฉพาะ Mercedes Me Connect ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยทำงานร่วมกับระบบ MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่ช่วยมอบความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่มากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมหน้าจอสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 เพื่อความบันเทิงแบบ MBUX Rear Seat Entertainment จำนวน 2 จอ ขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมหน้าจอแบบสัมผัส เพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยหูฟังแบบ Wireless Head Sets คุณภาพสูง
Mercedes-Benz GLS 350 D 4MATIC AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 6,499,000 บาท