จันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมการขนส่งทางบกได้งดการให้บริการบางกิจกรรมที่มีลักษณะการรวมกลุ่มคนจำนวนมากในบริเวณเดียวกัน และใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนาน ตั้งวันที่ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นมา เช่น งดใช้ห้องอบรมในการดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถที่สำนักงานขนส่งทุกแห่ง โดยแนะนำให้อบรมต่ออายุใบอนุญาตขับรถผ่านระบบ e-Learning เพื่อลดความเสี่ยงการติดต่อแพร่เชื้อ ในขณะที่การให้บริการชำระภาษีรถประจำปีได้งดการให้บริการที่ห้างสรรพสินค้า Shop Thru for Tax และการให้บริการที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยกรมการขนส่งทางบกได้เตรียมความพร้อมการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางอื่นๆ ไว้รองรับ โดยเฉพาะการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีในรูปแบบออนไลน์ ไม่ต้องเดินทาง รอรับเครื่องหมายการเสียภาษี และใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน อาทิ เวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th, แอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax, เคาน์เตอร์เซอร์วิศ, โมบายล์แอพพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet ในขณะที่การให้บริการที่สำนักงานได้เปิดให้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี Drive Thru for Tax ทุกช่องบริการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระภาษีรถประจำปีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ กรณีบางท่านที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีที่เคาน์เตอร์สำนักงาน จะมีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารทุกทางเข้า-ออก และมีเจลแอลกอฮอลสำหรับล้างมือให้บริการทุกจุดให้บริการ โดยขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่อมาติดต่อขอรับบริการที่กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากสถิติการชำระภาษีรถประจำปีของกรมการขนส่งทางบก ในเขตกรุงเทพมหานคร เดือนธันวาคม 2563 มีการชำระภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จำนวน 452,682 คัน แบ่งเป็นการใช้บริการ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 สูงสุด จำนวน 323,145 คัน รองลงมา คือ การใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี Drive Thru for Tax จำนวน 64,806 คัน ชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ จำนวน 28,700 คัน ผ่านเวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th/ จำนวน 20,614 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิศ จำนวน 8,027 คัน ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน จำนวน 5,278 คัน ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จำนวน 803 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 562 คัน ผ่านแอพพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet จำนวน 430 คัน ผ่านแอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax จำนวน 307 คัน และผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมโครงการ จำนวน 10 คัน โดยพบว่าเจ้าของรถให้ความสนใจ และหันมาใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์รวมทุกช่องทางแล้วมีสถิติสูงขึ้นต่อเนื่อง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ กรมการขนส่งทางบก
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ