ระเบียงรถใหม่
All-New Jeep Grand Cherokee 2021 เอสยูวี 7 ที่นั่งเป็นครั้งแรก
All-New Jeep Grand Cherokee 2021 (จีพ กแรนด์ เชอโรคี 2021 ใหม่) คันนี้ เป็นโมเดลเจเนอเรชันที่ 5 ของค่ายรถยนต์จอมลุยระดับตำนาน เป็นเอสยูวีหรูขนาดกลาง ที่มาแทนรุ่นเดิมที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2011 นับเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยเพิ่มรูปแบบที่นั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่ง โดยใช้ชื่อว่า Jeep Grand Cherokee L เป็นรถยนต์กลุ่ม Mid-Size Crossover SUV ที่มีคู่แข่งอย่าง BMW X5 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5), Mercedes-Benz GLE-Class (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี-คลาสส์), Volvo XC90 (โวลโว เอกซ์ซี 90) และ Audi Q7 (เอาดี คิว 7)
เรื่องราวของ Jeep เริ่มต้นในปี 1940 เมื่อกองทัพสหรัฐอเมริกาต้องการรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับใช้งานทั่วไปในราชการทหาร จึงประกาศให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ เข้าประมูล โดยทางกองทัพต้องการรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับผู้โดยสาร 3 คน โดยมีเครื่องยนต์กำลังไม่น้อยกว่า 40 แรงม้า ความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 50 ไมล์/ชั่วโมง น้ำหนักไม่เกิน 1,200 ปอนด์ กระจกหน้าพับได้ พร้อมติดตั้งปืนกล
ปรากฏว่าบริษัท American Bantam ซึ่งมี ฟแรงค์ เฟนน์ (Frank Fenn) ดำรงตำแหน่งประธาน ได้มอบหมายให้วิศวกรที่ชื่อ คาร์ล พรอบสต์ (Karl Probst) เป็นผู้ออกแบบ และได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ผลิตด้วยการส่งรถตัวอย่างให้กองทัพ และรถยนต์ลอทแรกได้ทันตามระยะเวลาที่กำหนด
แต่ด้วยภาวะสงครามที่มีความต้องการรถจำนวนมาก กองทัพคิดว่าบริษัท Bantam มีขนาดเล็กเกินไปที่จะจัดหายานพาหนะตามจำนวนที่ต้องการ ดังนั้น จึงได้ให้บริษัทผลิตรถยนต์ที่มีกำลังการผลิตมากกว่าอย่าง Willys (วิลลีย์ส์) และ Ford (ฟอร์ด) ผลิตให้แทน และบแรนด์ Jeep จึงได้ผ่านเจ้าของหลายรายโดยเริ่มจาก Willys-Overland (วิลลีย์ส์-โอเวอร์แลนด์) ซึ่งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าบแรนด์ Jeep ในเดือนกุมภาพันธ์ 1943 เป็นเหตุให้เกิดข้อขัดแย้งกับ American Bantam ที่เป็นคนออกแบบคนแรก
หลังจากนั้น Jeepได้กลายเป็นรถต้นแบบให้กับค่ายรถอื่นทั่วโลก เช่น ในประเทศฝรั่งเศส โดยค่ายรถยนต์ Delahaye (เดลาเฮย์) และ Hotchkiss et (ฮอทช์คิสส์ อีที) ในประเทศญี่ปุ่น เช่น Mitsubishi (มิตซูบิชิ), Suzuki (ซูซูกิ) และ Toyota (โตโยตา) ในประเทศอังกฤษ เช่น Land Rover (แลนด์ โรเวอร์) ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากรถ Jeep ด้วยกันทั้งสิ้น
จุดเริ่มต้นของ Jeep Grand Cherokee เริ่มขึ้นหลังจากการเปิดตัว Jeep Cherokee (XJ) เจเนอเรชันที่ 2 ในปี 1984 โดยบริษัท American Motors Corporation ซึ่งเป็นเจ้าของในขณะนั้น ได้พัฒนารถ Jeep รุ่นใหม่ โดยมองหาวิธีที่จะเร่งกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ดีกว่าคู่แข่ง และแม้แต่ Jeep Cherokee รุ่นเดิม เพื่อรองรับ และตอบสนองความต้องการของตลาด ที่มีความต้องการขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์ที่แรงขึ้น พร้อมกับสมรรถนะ และช่วงล่างที่ดี ภายใต้ชื่อโครงการ XJC โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ระบบซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ (CAD) ทำให้วิศวกรสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ
Jeep Grand Cherokee ZJ จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้บรฺิษัท Chrysler ที่เพิ่งซื้อกิจการต่อจาก American Motors Corporation เป็นรุ่นแรกวางจำหน่ายในปี 1993 ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Ford Explorer (ฟอร์ด เอกซ์พลอเรอร์) โดยที่ Jeep Grand Cherokee ใช้ตัวถังแบบ Monocoque (Unibody) ในขณะที่ Explorer ที่ใช้พื้นฐานมาจากรถกระบะ Ranger (เรนเจอร์) ยังคงใช้ Body-On-Frame ทำให้ได้เปรียบเรื่องความนุ่มนวลของช่วงล่าง และการบิดตัวของตัวถัง
เกือบ 30 ปีที่ Jeep Grand Cherokee รับหน้าที่เป็นรถเอสยูวีไซซ์ใหญ่ขับเคลื่อนความสุขของครอบครัวชาวอเมริกัน และทั่วโลก ด้วยความที่เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งการดีไซจ์น สมรรถนะ ความหรูหรา รวมถึงขุมพลัง และระบบขับเคลื่อนที่ฟันฝ่าทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย Jeep Grand Cherokee L ปี 2021 เจเนอเรชันที่ 5 จึงได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Jeep Grand Wagoneer Concept (จีพ กแรนด์ แวกอเนียร์ คอนเซพท์) ที่ถูกเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดย Jeep Grand Wagoneer เป็นรถเอสยูวีหรูขนาดฟูลล์ไซซ์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นรุ่นที่โด่งดังอย่างมากตั้งแต่ยุค 70
เป็นรถสไตล์สเตชันแวกอน แต่ถูกทิ้งช่วงยุติการทำตลาดไปถึง 26 ปี ซึ่งรุ่นสุดท้ายได้ใช้พื้นฐานของ Grand Cherokee Limited (ZJ) มาพัฒนา Jeep Grand Cherokee L ปี 2021 ได้ถูกออกแบบตัวรถในรูปลักษณ์ใหม่ แต่ยังคงความเป็นรถยนต์ของ Jeep แบบดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งให้ความรู้สึกของความหรูหราล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมกับกระจังหน้าแบบ 7 ช่องที่เป็นเอกลักษณ์ ไฟหน้า LED มีลักษณะเรียวเล็กลง พร้อมไฟ Daytime แบบ LED ในโคมเดียวกัน
เส้นสายด้านข้างรถวิ่งเป็นเส้นตรงผ่านที่เปิดประตูไปถึงไฟท้าย พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 265/60 R18 ส่วนล้อ 20 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 265/50 R20 และ 295/45 R20 ราวหลังคาด้านท้ายออกแบบใหม่ ไฟท้ายแนวนอน และการตกแต่งเฉพาะรุ่น มีทั้งรุ่น Laredo (ลาเรโด), Limited (ลิมิเทด), Overland (โอเวอร์แลนด์) และ Summit (ซัมมิท)
Jeep Grand Cherokee L ปี 2021 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิม ขยายความยาวถึง 5,204 มม. ความกว้าง 1,963 มม. ความสูง 1,816 มม. และฐานล้อ 3,091 มม. การออกแบบภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนไปมาก ได้รับการออกแบบเพิ่มความหรูหรา หน้าจอระบบสัมผัส 8.4-10.1 นิ้ว แล้วแต่รุ่นย่อย สามารถเชื่อมต่อระบบ Apple CarPlay and Android Auto และจอแสดงมาตรวัดดิจิทอลขนาด 10.3 นิ้ว ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ในส่วนของเบาะที่นั่งคู่หน้า ปรับแบบไฟฟ้าได้ถึง 16 รูปแบบ ระบบไฟ LED ภายในห้องโดยสารที่ปรับรูปแบบได้ตามต้องการ ช่องเชื่อมต่อ USB ทั้ง Type A และ Type C มีให้รวม 12 จุด ด้านเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังมี 2 ขุมกำลังให้เลือก ระหว่าง Pentastar เครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 3.6 ลิตร 290 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 248 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ Hemi แบบ V8 ขนาด 5.7 ลิตร กำลัง 357 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 348 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ทั้ง 2 เครื่องยนต์
และในอนาคต Jeep จะเพิ่มตัวเลือกรุ่นเครื่องยนต์ระบบ Plug-in Hybrid หลังจากนี้ ระบบช่วงล่างถุงลมอแดพทีฟ Quadra-Lift ซึ่งในโหมดมาตรฐานใต้ท้องรถจะมีความสูงจากพื้น 8.3 นิ้ว แต่จะเพิ่มความสูงได้อีก 2 ระดับ คือ 1.6 นิ้ว และ 2.4 นิ้ว จาก 2 โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีให้เลือก รวมไปถึงมีโหมด Aero ที่ลดความสูงของรถลง 0.8 นิ้ว พร้อมโหมดการขับเคลื่อน 5 แบบ ทั้ง Auto, Sport, Rock, Snow, Mud/Sand
ส่วนเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ก็มีมาให้ทั้งระบบเตือนการชนพร้อมกับระบบเบรคอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน (Full-Speed Collision Warning), ระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross-Path Detection), Adaptive Cruise และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน และขณะเดียวกัน Jeep จะมีการอัพเกรดระบบช่วยขับอัตโนมัติระดับ 2 ในช่วงปลายปีนี้
ด้านราคาขายนั้น Jeep Grand Cherokee L ปี 2021 แบ่งตัวเลือกออกเป็น 10 รุ่นย่อย โดยราคาเริ่มต้นในรุ่น Grand Cherokee Laredo E 4X2 ราคา 34,220 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.02 ล้านบาท) ส่วนรุ่นทอพ Grand Cherokee Trackhawk 4x4 ราคา 87,915 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.63 ล้านบาท)
All New Jeep Grand Cherokee L เตรียมจำหน่ายแล้วที่สหรัฐอเมริกา ส่วนในเมืองไทย ตอนนี้มีตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการอย่าง Jeep Thailand ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวบริษัทในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะนำเข้า All New Jeep Grand Cherokee L แต่คงต้องเชคในเรื่องภาษีอีกครั้ง เพราะด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ใหญ่ ทำให้ต้องเสียภาษีในอัตราสูง ส่งผลต่อการตั้งราคาที่ยากจะแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/355660