ธุรกิจ
คฑาทอง ทรานสปอร์ทฯ ลุยสั่งรถ Volvo Bus ประกอบนอกรายแรก
บริษัท คฑาทอง ทรานสปอร์ท จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการรถรับส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก เดินหน้าซื้อรถ Volvo Bus (โวลโว บัส) ประกอบจากประเทศมาเลเซีย กว่า 50 คัน เพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้า โดยฝูงแรกที่สั่งเข้าประจำการแล้วจำนวน 24 คัน โดยชุดแรกสั่งซื้อเมื่อปีที่แล้ว 12 คัน ปีนี้อีก 12 คัน และปีหน้ามีแผนจะสั่งซื้อเพิ่มอีก 30 คัน ทั้งนี้เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้อีก 40 % ในปีหน้า
พงษ์พันธ์ หงษ์ทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท คฑาทอง ทรานสปอร์ท จำกัด เปิดเผยว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับทีมเราได้พูดคุยกับทีมงานฝ่ายขายของ Volvo Bus ประเทศไทยให้ประสานงานกับทีมโรงงานประกอบตัวถังที่ประเทศมาเลเซีย ถึงการปรับปรุงคุณภาพตัวแชสซีส์ และตัวถัง รวมไปถึงการตกแต่งภายในของ Volvo Bus อย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้รถที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยมี ทั้งในรูปของความแข็งแรง คงทน ผ่านมาตรฐานการพลิกคว่ำ UN ECE R66 ที่เป็นผู้ประกอบการรายแรกที่นำมาใช้จริงในประเทศไทย เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้ใช้รถของเรา เพื่อให้ได้รถที่ดีที่สุด ทั้งในรูปของความแข็งแรง คงทน ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย จนได้รถที่เป็นไปตามความต้องการของบริษัทฯ จึงได้เริ่มสั่งซื้อรถ Volvo Bus ประกอบที่ประเทศมาเลเซีย ชุดแรก จำนวน 12 คันมาให้บริการแก่ลูกค้าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างมากจากลูกค้า ทำให้มีการสั่งซื้อเพิ่มอีกในปีนี้จำนวน 12 คัน และมีแผนจะสั่งซื้อเพิ่มอีก 30 คันในปีหน้าเพื่อรองรับแผนการเติบโตทางธุรกิจ 40 % ในปีหน้า
นอกจากตัวรถที่มีคุณภาพสูงตามความต้องการของบริษัทฯ แล้ว โวลโว บัส ประเทศไทยฯ ยังมีบริการ Service Contract Gold Package เพื่อรับประกันการบำรุงรักษาระหว่างการใช้งานที่บริษัทฯ สามารถกำหนดต้นทุนได้ชัดเจนตลอดอายุการใช้งาน ทำให้การเสนอราคาแก่ลูกค้ามีความแม่นยำ และคงที่ สามารถบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี ทำให้การเสนอราคาของบริษัทฯ สามารถแข่งขันกับผู้เล่นอื่นในตลาดได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญที่ทำให้ลูกค้ายอมรับการให้บริการของ คฑาทอง ทรานสปอร์ทฯ ในช่วงวิกฤติ COVID19 ว่าเป็นผู้ให้บริการที่ดีในราคาที่ไม่มีการปรับเพิ่มเติม แม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติ
บริษัท คฑาทอง ทรานสปอร์ท จำกัด ก่อตั้งในปี พศ. 2542 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท และมีรถตู้รับส่งพนักงานเพียง 2 คัน และสามารถดำเนินธุรกิจเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 20 ล้านบาท มีรถให้บริการรวมทั้งสิ้นเกือบ 500 คัน โดยแบ่งเป็นรถบัสประมาณ 200 คัน รถตู้ประมาณ 240 คัน และรถเช่าสำหรับผู้บริหารอีก 30 คัน
พงษ์พันธ์ กล่าวว่าในช่วงวิกฤติ COVID-19 ธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานโดยทั่วไปได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยยอดรายได้หดตัวตั้งแต่ 50 %-100 % อย่างไรก็ตาม คฑาทอง ทรานสปอร์ทฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้ไม่มาก โดยยอดรายได้ปีนี้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ที่อัตราเติบโต 30 % ทั้งนี้เป็นผลจากความใส่ใจในบริการ มุ่งมั่นพัฒนา และยกระดับการให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้รถบัสคุณภาพที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด อย่าง Volvo Bus ทำให้ลูกค้ายังคงยึดมั่นที่จะใช้บริการจาก คฑาทอง ทรานสปอร์ทฯ อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทฯ มีลูกค้าประมาณ 60 ราย และในช่วงวิกฤติ COVID-19 นี้ ลูกค้าได้รับการพิสูจน์ถึงคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ เป็นไปตามมาตรฐานที่สูงอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่น จะมีปัญหาในด้านการให้บริการที่ใช้รถคุณภาพไม่ดีพอ จึงทำให้บริษัทอื่นที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของ คฑาทอง ทรานสปอร์ทฯ ให้ความสนใจที่จะใช้บริการของบริษัทฯ อีกประมาณ 20 ราย
ดังนั้นปีหน้าเราจึงมั่นใจว่าเราจะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 40 % แน่นอนเพราะเราจะได้ลูกค้าใหม่เพิ่ม แต่เราจะระมัดระวังในการรับลูกค้าเพิ่มเพื่อรักษาคุณภาพการให้บริการของลูกค้าเราให้ได้มาตรฐานสูงเหมือนลูกค้าทุกรายในปัจจุบัน
บริษัทฯ มีแผนจะสั่งซื้อรถบัสเพิ่มอีก 30 คัน และรถตู้ 30 คันในปีหน้า โดยบริษัทฯ มีนโยบายชัดเจนในการเลือกซื้อรถที่มีคุณภาพสูงสุด ซึ่งในส่วนของรถบัส บริษัทฯ มีแผนที่จะเปลี่ยนฝูงรถบัสให้เป็นรถ Volvo Bus ทั้งหมดภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่เป็นรถ Volvo Bus 50 คันจาก 200 คัน ดังนั้นการสั่งซื้อรถบัสในปีหน้าจะเป็นการสั่งซื้อรถ Volvo Bus ทั้งสิ้น
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายจะปรับสัดส่วนการใช้รถตู้กับรถบัสจากปัจจุบันรถตู้ให้บริการประมาณ 60 % ของฝูงรถ ในขณะที่รถบัสประมาณ 40 % ซึ่งจากการดำเนินธุรกิจให้ได้เต็มประสิทธิภาพ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี จะปรับสัดส่วนการใช้รถบัสให้เพิ่มขึ้นเป็น 60 % และลดสัดส่วนของตู้ลงเหลือ 40 % ทั้งนี้เพราะการใช้รถบัสให้บริการรับส่งพนักงาน จะมีความประหยัด ปลอดภัย และควบคุมค่าใช้จ่ายได้แม่นยำกว่ารถตู้ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ของลูกค้าโดยตรง
“ข้อสำคัญ และเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามไปก็คือ การสร้างความยุติธรร มและความมีระเบียบวินัยของบรรดาพนักงานโรงงาน และพนักงานบริษัทผู้ใช้บริการเพราะการใช้รถบัส จะไม่มีการรับส่งถึงหน้าบ้าน แต่จะมีเส้นทางวิ่งที่แน่นอน ชัดเจน และมีตารางวิ่งคงที่แม่นยำ โดยพนักงานทุกคนได้รับการปฏิบัติเหมือนกันหมด
บริษัท คฑาทอง ทรานสปอร์ท จำกัด มีแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้ทำการศึกษา และเตรียมความพร้อมมาแล้วประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา และคาดว่าไม่เกิน 2 ปี จะสามารถนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สำเร็จ
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/354220