นวัตกรรมของ Nissan (นิสสัน) ที่เสริมทั้งความเงียบในห้องโดยสาร ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ทำให้ในปีนี้ เทคโนโลยีลดเสียงรบกวน (Noise-Reducing) หรือที่รู้จักกันภายใต้ชื่อของแผ่นอะคูสติคส์สังเคราะห์ ได้รับรางวัล The Best of What’s New Award จากนิตยสาร Popular Science ประจำปี 2020 ในหมวดยานยนต์
นิตยสาร Popular Science ก่อตั้งในปี 1872 มุ่งเน้นการรายงานเรื่องนวัตกรรม และการค้นพบที่แปลกใหม่ โดยเป็นหนึ่งในแบรนด์สื่อที่เก่าแก่ และได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา สำหรับรางวัล The Best of What’s New Award จะมอบให้แก่ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรม ที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมนั้นๆ แผ่นอะคูสติคส์สังเคราะห์ที่ Nissan คิดค้นขึ้นนี้เป็นวัสดุซับเสียงที่มีน้ำหนักเบา และมีหลักการการทำงานไม่ซับซ้อน โดยเป็นการผสมผสานระหว่างโครงสร้างแบบผลึก และแผ่นฟีล์มพลาสติคเพื่อควบคุมการสั่นสะเทือนของอากาศ จึงจำกัดการเคลื่อนที่ของคลื่นเสียงที่มีช่วงกว้างของการสั่นมากถึง (500-1,200 เฮิร์ทซ์) อาทิ เสียงเครื่องยนต์ และเสียงจากบนท้องถนน ในขณะที่วัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ในการจำกัดคลื่นเสียงในช่วงกว้างนี้มักเป็นแผ่นยางที่มีน้ำหนัก แผ่นอะคูสติคส์สังเคราะห์ของ Nissan นั้นมีน้ำหนักเบาเพียง 1 ใน 4 ของแผ่นยางทั่วไปเท่านั้น แต่คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการซับเสียงในระดับเดียวกัน วัสดุอะคูสติกคส์สังเคราะห์จะเป็นนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการยานยนต์ คิดค้นขึ้นโดยทีมวิศวกรของ Nissan ที่มุ่งเน้นการสร้างห้องโดยสารที่เงียบสงบ และยังตอบโจทย์ในด้านการลดน้ำหนักรวมของรถยนต์ ทำให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน และเพิ่มระยะทางในการขับขี่ให้มากขึ้นอีกด้วย
“เราตั้งใจจะนำแผ่นอะคูสติคส์สังเคราะห์ไปใช้กับรถยนต์หลายๆ รุ่น ไม่ใช่แค่ในรถยนต์แบบลักชัวรี หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในรถที่อาจมีข้อจำกัดในการใช้วัสดุซับเสียงที่มีน้ำหนักมาก” ซึซึมุ มิอุระ วิศวกรด้านวัสดุอาวุโส (Susumu Miura, Nissan’s Advanced Material Engineer) ผู้อยู่เบื้องหลังพโรเจคท์แผ่นอะคูสติคส์สังเคราะห์กล่าว
“การพัฒนา และนำนวัตกรรมแผ่นอะคูสติคส์สังเคราะห์มาใช้ตอกย้ำว่า Nissan ต้องการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สบาย และเพลิดเพลินยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าทุกท่าน”
วัสดุอะคูสติคส์สังเคราะห์ กำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์โดยนวัตกรรมนี้เป็นการตอกย้ำว่า Nissan Intelligent Mobility ได้รับการพัฒนาเพื่อมายกระดับประสบการณ์การขับขี่ของลูกค้า