ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่าหนึ่งในเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของ TK คือ ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงการให้บริการที่ดีเพื่อความพอใจสูงสุดของลูกค้า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มอีกกว่า 30 ล้านบาท พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในส่วนระบบงานให้บริการลูกค้า และในส่วนระบบการทำงานภายในองค์กร โดยในช่วงแรกของการพัฒนาระบบจะเน้นประโยชน์ในการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็ว และข้อมูลมีความถูกต้อง ด้วยการพัฒนาโมบายล์แอพพลิเคชันที่มีระบบอินเตอร์เฟศ 2 ส่วนสำคัญ คือ “TK Plus” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันส่วนที่อินเตอร์เฟศกับลูกค้า และแอพพลิเคชันส่วนที่อินเตอร์เฟศกับพนักงานสำหรับทำงานเพื่อบริการลูกค้า
สำหรับแอพพลิเคชันส่วนที่อินเตอร์เฟศกับพนักงาน ประกอบด้วย 3 แอพพลิเคชัน คือ Mobile Checker สำหรับบันทึกข้อมูลลูกค้า ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า และพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ Mobile Bill สำหรับพนักงานบริหารหนี้ สำหรับการตรวจสอบสถานะต่าง ๆ ของงานบริหารหนี้ทั้งหมด โดยสามารถออกใบเสร็จรับเงินผ่านเครื่องพิมพ์แบบพกพาได้ทันที และ Mobile Box Management ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันสำหรับพนักงานเก็บเงิน โดยถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่จัดเก็บเงิน ให้ทราบสถานะที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อลดงานซ้ำซ้อนในระบบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อบริหารเวลาทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปฐมา อธิบาย
ส่วนแอพพลิเคชันที่อินเตอร์เฟศกับลูกค้า คือ “TK Plus” แอพพลิเคชันที่ลูกค้าสามารถใช้งานบนโทรศัพท์มือถือ และแทบเลท ปัจจุบันลูกค้าสามารถใช้ฟังค์ชันเมนูขอสินเชื่อ เพื่อขอสินเชื่อทางออนไลน์ได้เลย พร้อมระบบการแจ้งเตือนก่อนถึงกำหนดชำระค่างวด เพื่อความสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ลูกค้ายังคงสามารถติดต่อสอบถามจากทาง Call Center ของบริษัทได้อีกด้วย
“แนวคิดของการพัฒนาแอพพลิเคชันเกิดจากข้อมูลที่เรารวมคำถามที่ลูกค้าติดต่อผ่านเข้ามาทาง Call Center โดย 3 คำถามที่ลูกค้าสอบถามมากที่สุด คือ การตรวจสอบยอดชำระ ยอดค้างชำระ ดอกเบี้ย และช่องทางการชำระเงินต่างๆ รวมถึงการติดตามเอกสารสัญญาเช่าซื้อ ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ทาง TK จึงได้นำปัญหาจากลูกค้าไปใช้ในการพัฒนางานบริการดังกล่าวด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งผล คือ สามารถลดระยะเวลาอนุมัติเช่าซื้อให้ลูกค้าจาก 1 วัน เหลือเพียง 1-2 ชม. นอกจากนี้ เรายังสามารถลดระยะเวลาในการออกสัญญา และส่งสัญญาตัวจริงไปให้ลูกค้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 2-3 วัน” ปฐมา กล่าว
ปฐมา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ บริษัทฯ กำลังพัฒนา “TK Plus” แอพพลิเคชันเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าสามารถเรียกดูข้อมูล รวมถึงการออกแบบฟอร์มการชำระเงิน ให้สามารถชำระค่างวดผ่าน “TK Plus” แอพพลิเคชัน คาดว่าจะพร้อมให้บริการฟังค์ชันใหม่เร็วๆ นี้ นอกจากนี้ TK ได้นำระบบดังกล่าวไปใช้ที่สาขาต่างประเทศด้วย โดยได้เริ่มทดลองใช้บางส่วนที่กัมพูชา และ สปป. ลาว และยังมีแผนจะทดลองระบบในเมียนมาร์ ต่อไป
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ ฐิติก
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ