Nissan (นิสสัน) ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวกระบะ Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) บิกไมเนอร์เชนจ์ โดยปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอก และภายใน จัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัย ตัวรถยังคงเน้นความแข็งแกร่ง ทนทาน ตอบสนองต่อการใช้งานทุกรูปแบบ
Nissan Navara 2021 ใหม่ ถูกผลิตขึ้นที่ฐานการผลิตรถยนต์ Nissan ในประเทศไทย โดยส่งออกไปยังตลาดอาเซียน และออสเตรเลีย ตามแผนการที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต การวิจัย และพัฒนารถยนต์ Nissan ของภูมิภาคอาเซียน
Nissan Navara ไมเนอร์เชนจ์ ได้ถูกปรับรูปลักษณ์ทำให้ดูแข็งแกร่งบึกบึนกว่าเดิม กระจังหน้าขนาดใหญ่แบบ Interlock ทรงสี่เหลี่ยม ติดตะแกรงรังผึ้ง สีดำ ไฟหน้า LED Projectors Quad-eyed รูปตัว C เป็น full LED ทั้งหมด กันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมช่องดักลมติดตั้งไฟตัดหมอก LED
ยกระดับความแกร่ง ด้วยรุ่นพิเศษ Navara PRO-4X ที่มีดีไซจ์นแตกต่างจากรุ่น Standard เหมาะกับผู้ที่ชอบการผจญภัย โดยมีการปรับแต่งระบบช่วงล่าง เพื่อสมรรถนะในการขับทั้งบนถนนปกติ และเส้นทางทุรกันดาร ติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่องยนต์ที่เชื่อมโยงกับชุดกันชนหน้า
โดย Navara PRO-4X จะมีจำหน่ายในไลน์อัพของรถกระบะ Nissan ทั่วโลก
ห้องโดยสารของ Navara ใหม่ ได้ปรับปรุงการเก็บเสียง ด้วยการใช้กระจกแบบ Noise-reducing acoustic glass ลดเสียงรบกวนจากภายนอก หน้าจอสีแสดงผล 3 มิติ แบบ TFT ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว
ที่นั่งด้านหลังเพิ่มความสบายด้วยดีไซจ์นใหม่ให้เข้ากับสรีระของผู้โดยสาร หน้าจอตรงกลางระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนท์ NissanConnect ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถได้อย่างง่ายดาย เช่น ฟังเพลงผ่าน Bluetooth, ระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) และพร้อมระบบนำทาง (Navigation System)
สำหรับเมืองไทย แม้ว่ายังไม่ได้เปิดเผยสเปคเครื่องยนต์ แต่คาดว่าใช้ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ใหม่ 2.3 ลิตร 163 แรงม้า ที่ 3,750 รตน. แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รตน. ในรุ่น YS23DDT และเทอร์โบคู่ 190 แรงม้า ที่ 3,750 รตน. แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รตน. ในรุ่น YS23DDTT
เครื่องยนต์มีการอัพเดทแหวนลูกสูบใหม่, เปลี่ยนปั๊มเชื้อเพลิงให้มีแรงดันสูงขึ้น ตลอดจนพัฒนาระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ใหม่ ทั้งหมดทำให้ขุมพลังตัวนี้มีการตอบสนองดีขึ้น ทั้งยังลดการปล่อยไอเสียด้วย SCR ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro 6 โดยจับคู่กับระบบส่งกำลัง ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราทดใหม่ และเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อนมีทั้งรุ่น 2WD และรุ่น 4WD เมื่ออยู่ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีระบบป้องกันการลื่นไถล (Active Brake Limited Slip Differential System) โดยปรับการส่งกำลัง และการเบรคล้อระหว่างเพลาหน้า และเพลาหลัง รวมถึงระหว่างล้อซ้าย/ขวา โดยขึ้นอยู่กับการเกาะถนนของล้อนั้น และความเร็วของรถขณะนั้น มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพขณะลากจูง (Trailer Sway Assist) ช่วยให้รถยนต์คงการทรงตัวขณะลากจูง ส่วนช่วงล่างหลัง Five-link rear suspension พร้อมคอยล์สปริง ให้ความนุ่มนวลไม่แพ้รถเก๋ง แต่ยังคงความสมบุกสมบัน
จัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก Nissan Intelligent Mobility เสริมความปลอดภัยแบบ 360 องศารอบคัน เพื่อปกป้องผู้โดยสารจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning-IFCW) ที่ส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า และเทคโนโลยีช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking-IEB) ที่จะช่วยวิเคราะห์ระยะห่าง และความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็ว และหยุดรถเพื่อลดความรุนแรง หรือลดความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ
ระบบเตือนคนขับอัจฉริยะ (Intelligent Driver Alertness) ซึ่งจะแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่หยุดพัก เมื่อตรวจพบการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือการหักเลี้ยวที่จะทำงานร่วมกับ ระบบเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) ที่จะเตือนผู้ขับขี่หากรถเคลื่อนออกนอกเลนโดยไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวกำกับ และเทคโนโลยีควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention) จะหมุนพวงมาลัยนำรถยนต์กลับไปที่กึ่งกลางของเลน หากยังมีการเคลื่อนที่ต่อไป เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกับรถคันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตา
กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor-IAVM) ที่ทำงานควบคู่กับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection-MOD) ซึ่งจะใช้กล้อง 4 ตัว เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพวัตถุโดยรอบ หรือที่กำลังเข้ามาใกล้ เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert-RCTA) ที่จะช่วยลดความกังวลที่มาพร้อมกับมุมมองที่ถูกจำกัดเมื่อตอนถอยรถ โดยระบบจะตรวจสอบด้านหลังของรถ และเตือนผู้ขับขี่หากมีวัตถุเข้าใกล้จากด้านใดด้านหนึ่ง
ครั้งแรกกับระบบยังมีจอมอนิเตอร์ระบบ Off-Road Meter ที่ช่วยให้เห็นอุปสรรครอบคันขณะขับขี่ในโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยให้การขับรถในเส้นทางยากลำบากลุยไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
เตรียมพบกับ Nissan Navara บิกไมเนอร์เชนจ์ ในเมืองไทยวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ รอลุ้นเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่ว่าจะจัดเต็มมาขนาดไหน