เรื่องน่ารู้
ชมรถเด่น "FAST AUTOSHOW THAILAND 2020"
เปิดฉาก มหกรรม Fast Auto Show Thailand 2020 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันพุธที่ 28 ตุลาคม-วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน นี้ ณ ฮอลล์ 105-106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยในปีนี้มีไฮไลท์ทั้งรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ และรถยนต์รุ่นตกแต่งพิเศษ มานำเสนอ
New MG HS PHEV (Plug-In Hybrid)
MG HS PHEV (เอมจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถเอนกประสงค์ครอสส์โอเวอร์ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 โดยถือเป็นรุ่นแรกของ MG (เอมจี) ที่เป็นรถยนต์ในกลุ่มพลัก-อิน ไฮบริด ข้อมูลเบื้องต้นของรถรุ่นนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง ความจุ 1.5 ลิตร ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังรวมสูงสุด 291 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.6 วินาที และวิ่งด้วยไฟฟ้า 100 % เป็นระยะทาง 75 กม. ส่วนราคานั้นคาดว่าจะไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
All-New Isuzu X-Series
พิคอัพจาก Isuzu (อีซูซู) ที่มาพร้อมชุดแต่ง X-Stylish Package มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ แนวสปอร์ทเรซิงในรุ่น Speed (สปีด) และสปอร์ทพรีเมียมในรุ่น Hi-Lander (ไฮ-แลนเดอร์) โดยทั้ง 2 รุ่นมีให้เลือกสีขาว และสีดำ ทั้งแบบ 2 ประตู และ 4 ประตู
All-New Isuzu X-Series Speed (อีซูซุ เอกซ์-ซีรีส์ สปีด)
มาพร้อมดีไซจ์นภายในสีดำ-แดง ชุดแต่งกระจังหน้าสีดำ Glossy Black พร้อมสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง,ชุดแต่งสเกิร์ทรอบคัน พร้อมกันชนหน้า-หลัง ลายเคฟลาร์ โดดเด่นด้วยเส้นขอบล่างสีแดง ดีไซจ์นลู่ลม เติมเต็มอารมณ์สปอร์ท ,สติคเกอร์ดีไซจ์นเท่ สีเทาขอบแดง คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า ,สัญลักษณ์ X ด้านข้างตัวรถ สีแดง โดดเด่นสะดุดตา เสริมอารมณ์สปอร์ท
ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สีดำ Glossy Black เข้ากับตัวรถ โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง เท่ สปอร์ทเต็มอารมณ์ ,ไฟหน้าหล่อเข้ม ISUZU Vision Bi-LED เพิ่มความสว่าง ส่องได้ไกลและกว้างขึ้น ปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ ได้ 4 ระดับ พร้อม Auto Lights Off และไฟท้าย Dual-Sonic LED โดดเด่นมีสไตล์ แบบ Clear Lens ให้ความสว่างชัดเจน
รุ่น Speed มีสีขาวไซบีเรียน (Siberian White) และดำบาวาเรียน ไมคา (Bavarian Black Mica) ราคา 723,000–821,000 บาท
All-New Isuzu X-Series Hi-Lander (อีซูซุ เอกซ์-ซีรีส์ ไฮ-แลนเดอร์)
มาพร้อมดีไซจ์นภายนอก กระจังหน้าสีดำ Glossy Black พร้อมสัญลักษณ์ ISUZU สีแดง คมเข้ม ดุดัน, สเกิร์ทกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ พร้อมขอบล่างสีเงิน, สติคเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า ตกแต่งขอบด้วยสีเงิน Silver-Grey ในรุ่นสีขาว เเละตกแต่งขอบด้วยสีทอง Light Gold-Silver ในรุ่นสีดำ, สัญลักษณ์ X ด้านข้างตัวรถ สีแดง โดดเด่นสะดุดตา เสริมอารมณ์สปอร์ท , บันไดข้างแบบชิ้นเดียว เรียบหรู มีสไตล์ ตกแต่งด้วยสีเงิน Silver Grey ในรุ่นสีขาว/ตกแต่งด้วยสีเทาเข้ม Dark Grey ในรุ่นสีดำ
สปอร์ทบาร์สีเดียวกับตัวรถ ดีไซจ์นลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ,ล้ออัลลอย สีดำ Glossy Black เท่ ดุดัน โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ ISUZU สีแดงเข้มเต็มอารมณ์สปอร์ท ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น 4 ประตู / ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น 2 ประตู, ไฟหน้าหล่อเข้ม ISUZU Vison Bi-LED เพิ่มความสว่าง ส่องได้ไกลและกว้างขึ้น ปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ ได้ 4 ระดับ พร้อม Auto Lights Off
ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูรถ พร้อม Multifunctional Daylight แบบ Built-in ส่องสว่างในเวลากลางวัน และเป็นไฟหรี่ในเวลากลางคืน และไฟท้าย Dual-Sonic LED โดดเด่นมีสไตล์แบบ Clear Lens ให้ความสว่างชัดเจน กันชนท้าย Integrated Bumper ดีไซจ์นสปอร์ทเท่ สีเดียวกับตัวรถ ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย
รุ่น Hi-Lander มีสีขาวมุกเอเวอเรสต์ (Everest Pearl White) และดำ บาวาเรียน ไมคา (BAVARIAN BLACK MICA) นอกจากนี้ในรุ่น 4 ประตู ยังมีเกียร์อัตโนมัติให้เลือกอีกด้วย ราคา 838,000–974,000 บาท
Suzuki Swift 1.2 GL Max Edition
อีโคคาร์ยอดนิยมจากค่าย Suzuki (ซูซูกิ) Suzuki Swift GL Max Edition (ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอล แมกซ์ เอดิชัน) ถูกจับมาในรุ่นตกแต่งพิเศษ และเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยรถในรุ่นนี้มาพร้อมชุดแต่งที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ กับชุดสเกิร์ทรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลัง เสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อสีดำ ท่อไอเสียคู่เสริมความดุดันเร้าใจ บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วยชุดสติคเกอร์ Max Editition
ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์รหัส K12M แบบเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่หรือ Dualjet เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20 ประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยกว่า 23 กิโลเมตร/ลิตร
มีสีที่จำหน่ายคือ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีเทาอ่อน Star Silver Metallic, Mineral สีเทาเข้ม Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic จำหน่ายในราคา 541,000 บาท และ สีขาว Pure White Pearl จำหน่ายในราคา546,000 บาท
Mitsubishi Pajero Sport
Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท จีที พลัส)
เปิดตัวสู่ตลาดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับ Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus ใหม่ ถือเป็นรุ่นย่อยที่ออกมาแทรกตรงกลางระหว่างรุ่น 2.4D GT 2WD ที่จำหน่ายราคาเริ่มต้น 1.299 ล้านบาท กับรุ่น 2.4D GT Premium 2WD ที่จำหน่ายราคาเริ่มต้น 1.469 ล้านบาท โดย Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus ถูกตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 1.349 ล้านบาท
ความพิเศษของ Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus มาพร้อมฟีเจอร์ อาทิ ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรีและปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมลอครถ และจอภาพขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมกับรีโมทและหูฟังอินฟาเรด เพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายอันทันสมัย อาทิ ระบบ Brake Auto Hold เบรคอัตโนมัติเมื่อจอดอยู่กับที่ (BAH) ระบบเบรคมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ (APB) กล้องมองภาพรอบคัน (MAM) และเซนเซอร์ช่วยจอด
ด้านขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์ MIVEC VG Turbo ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่ 3,500 รตน. แรงบิด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รตน. ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท เอลีท เอดิชัน)
ในรุ่นนี้เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม การตกแต่งดีไซจ์นจะดูหรูหรา และมีให้เลือก 2 แบบได้แก่ 2.4 GT Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,524,000 บาท และ รุ่น 2.4 GT Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,629,000 บาท
สำหรับดีไซจ์นภายนอกของ Pajero Sport Elite Edition ใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ, ฝากระโปรงตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ Pajero Sport, สัญลักษณ์ Elite Edition บนประตูท้าย และปลายท่อไอเสียสเตนเลสส์ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ ไฟหน้าพโรเจคเตอร์ Bi-LED แบบรมดำ, ชุดแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง, ราวหลังคาสีดำ, สปอยเลอร์ท้ายสีดำ, เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ และล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว
ด้านขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร VG Turbo Intercooler กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพโดย : ฝ่ายภาพ
คอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/346720