ระหว่างเพื่อน
ไก่อ่อน (ระหว่างเพื่อน): Nothing !
อุณหภูมิสถานการณ์ของเมืองไทย ณ วันนี้ ขึ้นถึงระดับลิเกหลงโรง จำเป็นเปิดการแสดงฉุกเฉิน 2 วัน 2 คืน
ผู้สร้างสถานการณ์ คือ การชุมนุมของผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร”
การชุมนุมเรียกร้อง 3 ข้อ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออกจากตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” และ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”
ข้อ 2 ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ราษฎรทั้งหลายของประเทศส่งตัวแทน (ผู้แทนราษฎร) เข้าไปเล่นลิเกในรัฐสภา
ข้อ 3 ปฏิรูปสถาบัน
ข้อ 1 ข้อเดียว แจ้งออกมาก็น่ารำคาญสุดๆ ไม่รู้ว่าเรียกร้องออกมาด้วยความคิดแบบใด
“ต้องลาออกภายใน 3 วัน 7 วัน”
“ต้องลาออกภายในเวลา 4 ทุ่ม”
เรียกร้องแบบนี้ ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนสนองตัณหาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น “ลุงตู่”
ชุมนุมกันทุกวัน ไม่สนใจกฎหมายห้ามการชุมนุม
ออกมาพบกัน เพื่อให้ลุงตู่ลาออก
แต่ไม่เคยบอกว่า จะยินดีให้ใครมาเป็น นายกรัฐมนตรี ?
ไม่เคยแสดงความเห็น หรือแสดงเหตุผลว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของ “ราษฎร” จะมาทำเนียบรัฐบาลได้อย่างไร จึงจะถูกต้องตามระบอบการปกครองของเมืองไทย
ไม่พูดสักคำ “376” มีความหมายอย่างไรกับคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี
เมืองไทยของเราวันนี้ ยังอยู่ระหว่างสงคราม COVID-19 แต่ด้วยการบริหารราชการแผ่นดินของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สงครามนี้ “ไทยชนะ”
ลุงตู่ บริหารด้วยการรับฟังเสียง ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค. มท.) จากการทำงานของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสงคราม
ขออนุญาตเอ่ยนามผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ ศบค. กระทรวงมหาดไทย คือ
บุญธรรม เลิศสุขีเกษม-รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และสมคิด จันทมฤก-รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
สถานการณ์ของเมืองไทยได้รับความนับถือจากโลก
นักท่องเที่ยวทุกประเทศ ยินดีเดินทางมาเมืองไทย ทั้งเพื่อการท่องเที่ยว Amazing Thailand และเพื่อการลงทุน รวมถึงการค้าขายระหว่างประเทศ
COVID-19 เป็นผู้ทรงพลังของโลก เข้าโจมตีที่ใด ที่นั่นระเบิดเถิดเทิง ไม่สนใจศัสตราวุธ หรืออาวุธร้ายแรงอย่างไร มนุษย์ในโลกติดเชื้อไวรัสมากกว่า 40 ล้านคน
แต่เมืองไทยของเรา แม้จะมีตัวเลขที่น่าพอใจ แต่ภาวการณ์ทางเศรษฐกิจก็ยังซึมยาว
ซึมยาวด้วยพิษสงของ COVID-19 รัฐบาลจำเป็นต้องดูแล และบริหารด้วยความพินิจพิเคราะห์ และด้วยความรอบคอบ
การชุมนุมในกรุงเทพฯ เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้การค้าขายซึมยาว พ่อค้าแม่ขาย ไม่นับรถเข็น ไม่มีรายใดเรียกร้องให้ราษฎรมาชุมนุมที่ศูนย์การค้านั้นๆ หรือแยกสำคัญที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายอื่นๆ
การชุมนุม ซึมยาวทุกวัน จนเกิดกลุ่มผู้เห็นต่าง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่สวมเสื้อสีเหลือง
ผู้เห็นต่าง ออกมาแสดงตนไม่เห็นด้วย แทบทุกจังหวัดของเมืองไทย
สถานการณ์บ้านเมืองก็เริ่มเป็นปัญหา ว่าด้วยความแตกแยก แบ่งกลุ่มแบ่งฝ่าย เพื่อให้การเผชิญหน้าเกิดขึ้น
รัฐสภา อยู่ระหว่างปิดสมัยการประชุม เห็นว่า ควรเปิดวิสามัญเพื่อหาทางออกของสถานการณ์
ลิเกหลงโรง แสดง 2 วัน 2 คืน จันทร์ที่ 26 และอังคารที่ 27 ตุลาคม
ผู้คนของรัฐสภาเรียกการประชุมแบบฉุกเฉินไพเราะมาก อ้างว่าประชุมเพื่อแสดงวุฒิภาวะ
แต่... ขอโทษครับ การแสดงวุฒิภาวะดังกล่าวแพ้ราบ คนนอกรัฐสภา 2 คน ที่เป็นคนไทยคือ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” กับ “ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน”
การแสดงวุฒิภาวะของบิณฑ์ พูดด้วยน้ำตาลูกผู้ชาย
ขณะที่การแสดงวุฒิภาวะของ น้องปุ๋ย ทำให้เราน้ำตาไหล
สุดยอดน่านับถือทั้ง 2 คน
เราเชื่อว่า ประชาชนที่อยู่กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข เป็นคนไทยจริงแท้ ชื่นชมการแสดงวุฒิภาวะของ บิณฑ์ กับน้องปุ๋ย
บิณฑ์ ชีวิตอย่างน้อย 34 ปี อุทิศตนเพื่อแผ่นดินนี้ ภายใต้การทำงานของหน่วยงานเอกชน มูลนิธิร่วมกตัญญู
น้องปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ Miss Universe คนที่ 2 ของประเทศไทย โพสต์ข้อความ ผ่านเฟศบุคส่วนตัว (Bui Simon) ด้วยความเจ็บปวดของหัวใจ เตือนสติคนไทยถึงวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจ และในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทุ่มเทเพื่อพสกนิกรชาวไทย
ขณะ บิณฑ์ ประกาศขอลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อแสดงตัวเป็นคนไทยอย่างแท้จริงที่มีชื่อ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ทั้ง น้องปุ๋ย และบิณฑ์ แสดงวุฒิภาวะได้น่านับถืออย่างยอดเยี่ยม
ประชาชนไม่น่าจะผิดหวังกับการแสดงออกของคนไทยทั้ง 2 ดังกล่าว
ปัญหา ย่อมอยู่ที่ ลุงตู่ ท่านจะดำรงชีวิตเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอย่างไร
นายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา เราเห็นว่า การแสดงวุฒิภาวะของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ยอดเยี่ยมจนสามารถครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจากพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ถึง 3 สมัย (2523 – 2531)
Tactics อย่างหนึ่งที่พลเอกเปรมแสดง ก็คือ แสดงเป็นพระเตมีย์ใบ้ พูดน้อย
ระบบ “Nothing” คือ อาวุธสำคัญ
ลุงตู่ อาจจะอาศัยอาวุธนี้เพื่อประกอบการแสดงวุฒิภาวะในการเป็น หัวหน้ารัฐบาล นำพาประเทศชาติสืบไปก็ได้
ทั้งหมดนี้ เป็นข้อเรียกร้องของราษฎรข้อเดียว อีก 2 ข้อ น่าจะเป็นรูปธรรมขึ้นมาได้ก็คงเป็น ข้อ 2 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขที่จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องฟังเสียงรอบด้าน
ลุงตู่ ทุกวันนี้ ก็ฟังเสียง ทุกสรรพสำเนียง ทุกภาคส่วน น่าจะเป็นการแก้ไขที่สามารถทำให้นามธรรมกลายเป็นรูปธรรม
สุดท้าย ผู้ชนะก็อย่างที่เราพูดแล้ว คือ “ไทยชนะ”
เรื่องโดย : ไก่อ่อน
คอลัมน์ Online : ระหว่างเพื่อน (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/346692