จอนนี่ ลีวิส ได้สร้างประวัติศาสตร์ในนามของ Royal Enfield (รอยัล เอนฟีลด์) ด้วยการเปิดตัว Royal Enfield Twin FT (รอยัล เอนฟีลด์ ทวิน เอฟที) มอเตอร์ไซค์แข่งเครื่องยนต์สูบคู่ให้โลกแฟลตแทร็กได้รู้จัก ด้วยการเข้าแข่งขันอเมริกันแฟลตแทร็ก (AFT) ในรุ่นเครื่องยนต์สูบคู่ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา หลังการพัฒนา และทดสอบกว่าหลายเดือน
Royal Enfield Twin FT เกิดขึ้นการจากความทุ่มเทของ Royal Enfield และ ทีมแข่งมอเตอร์ไซค์ Moto Anatomy ของลีวิส เป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน ที่ลีวิส และทีมทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Royal Enfield รวมถึง Harris Performance ผู้สร้างโครงรถแข่งชื่อดัง และ S&S Cycle ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ และทันทีที่ลีวิสก้าวลงสนามแข่ง AFT นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 119 ปี ของ Royal Enfield ในช่วงปีแรก แม้ว่าลีวิส อยากจะลงแข่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังหนีไม่พ้นการพัฒนา Twin FT ให้ดีขึ้น และอุทิศเวลาส่วนใหญ่ตลอดฤดูกาลแข่งขันให้กับการปรับเปลี่ยนและปรับปรุงส่วนต่างๆ ที่จำเป็น
“เราผ่านอะไรมามากมาย กว่าจะถึงจุดนี้ได้” ลีวิสกล่าว “พวกเราทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอด 6 เดือน เพื่อพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับการแข่งขันให้กับ Royal Enfield ชิ้นส่วนรถมอเตอร์ไซค์แข่งชิ้นล่าสุดถูกส่งมาจากอินเดียก่อนการแข่งขันเพียงไม่กี่วัน พวกเราจึงต้องเร่งมือประกอบอย่างหนัก แต่พวกเราก็มีความสุขมากที่ได้ร่วมพัฒนามอเตอร์ไซค์คันนี้ ซึ่งความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาด Royal Enfield และพันธมิตรของเราที่ทุ่มเทอย่างหนัก ในตอนนี้ เรามีมอเตอร์ไซค์ที่มีศักยภาพที่ดี นับว่าเรามีจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการพัฒนาต่อไป”
ทีมงานต้องเผชิญกับความท้าทายเนื่องจากการแข่ง AFT ถูกเลื่อนออกไปในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 แต่ถึงแม้จะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ลีวิสก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต้นแบบมอเตอร์ไซค์ต่อไป ลีวิสติดต่อกับทีมที่ Harris Performance Royal Enfield และ S&S Cycle อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยนโครงรถ และปรับปรุงไปพร้อมๆ กับการทดสอบมอเตอร์ไซค์ต้นแบบในสถานที่ต่างๆ ในเมืองเซนเตอร์ฮิว รัฐฟลอริดา ลีอิฃฃวิส และทีมงานยังคงทำงานด้วยความพยายามอย่างหนัก แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายในการขนส่งชิ้นส่วนระหว่างประเทศ และเขตเวลาที่ต่างกันของแต่ละประเทศ แต่หลังจากการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย การแข่งขันครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของทีม Royal Enfield ทั้งในอินเดีย และสหราชอาณาจักร รวมถึง Harris Performance และ S&S Cycle และในปีนี้ ทุกความตั้งใจจะมุ่งไปที่การพัฒนาเพื่อทำให้มอเตอร์ไซค์ดีขึ้นยิ่งกว่า เพื่อพร้อมสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25-26 กันยายน 2563 ในการแข่ง Dallas Half Mile
นอกจากนี้ในการแข่ง AFT รอบแอทแลนตา และเดย์โทนาบีช จะมีผู้เข้าร่วมจากพโรแกรม Royal Enfield’s Build Train Race (BTR) มาลงสนามด้วย Royal Enfield Interceptor 650 Custom (รอยัล เอนฟีลด์ อินเตอร์เซพเตอร์ 650 คัสตอม) พร้อมกับลีวิสอีกด้วย โดยลีวิส และทีมจะแข่ง AFT ให้จบเพื่อรวบรวมข้อมูล และผลลัพธ์ของ Royal Enfield Twin FT ก่อนจะเริ่มการแข่งในฤดูกาลหน้า
ประโยคที่ว่า “Competitive Straight Out Of The Box” มักถูกใช้พูดถึงการแข่งขันมอเตอร์ไซค์มาก่อน แต่มันไม่เคยมีความหมายอย่างแท้จริงจนเมื่อวันแข่งรุ่นเครื่องยนต์สูบคู่ที่สนามวิลเลียมส์โกรฟสปีดเวย์ รถมอเตอร์ไซค์ที่ลีวิสต้องใช้แข่งเพิ่งส่งมาถึงสหรัฐอเมริกา 3 วัน ก่อนการแข่งจริง โดยที่ยังอยู่ในสภาพแยกส่วนและจำเป็นต้องประกอบให้เสร็จภายใน 2 วันเท่านั้น ถือว่าเป็นการทำงานที่มีเวลากระชั้นชิดมาก ไม่มีแม้แต่เวลาลองรถก่อน
วันแข่ง รอบซ้อมในวันแข่งจริงเป็นครั้งแรกที่ลีวิสได้ลองขี่ Royal Enfield Twin FT แต่ลีวิสก็สามารถสร้างความประหลาดใจ โดยการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ในรอบรองชนะเลิศ และอันดับที่ 6 ในรอบ Main Race ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 12 กันยายน ทีมงานได้ลองทดสอบการติดตั้งโครงรถใหม่ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นจากวันก่อนหน้านี้ ในตอนที่ลีวิสเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ในรอบรองชนะเลิศ ปะเก็นฝาสูบหลุดออกมา ทำให้ลีวิสจำเป็นต้องออกจากสนาม ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขโดยทีม Moto Anatomy และ Royal Enfield ที่มีวิศวกรจากสหราชอาณาจักรคอยให้คำแนะนำผ่านระบบออนไลน์ ทีมสามารถถอดมอเตอร์ เปลี่ยนปะเก็นฝาสูบ และส่งมอเตอร์ไซค์กลับสู่สนามแข่งภายใน 13 นาที ก่อนการยกธงเขียว ลีวิสโชว์ความสามารถในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม และจบเป็นอันดับที่ 7 ของการแข่งขัน
ทีมงานยังคงมุ่งมั่นในการทดสอบ และพัฒนามอเตอร์ไซค์ต่อไปในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนการแข่ง AFT รอบเทกซัส โดยมีทีมจาก Royal Enfield จากสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรคอยช่วยเหลือ เป็นโอกาสอันดีที่ลีวิสจะได้ทดสอบ และปรับปรุงเครื่องยนต์ และโครงรถ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานับเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี โดยมีข้อมูลอีกมากที่จะต้องนำมาศึกษาเพิ่มเติม Royal Enfield Twin FT พิสูจน์แล้วว่าเป็นมอเตอร์ไซค์แข่งแกะกล่องจริงๆ และทีมงานก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้มอเตอร์ไซค์พร้อมโลดเล่นในสนามแข่ง
วิมัล ซัมบลีย์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค Royal Enfield กล่าวว่า “เรายึดมั่นในหลักการการขับขี่ที่แท้จริง หรือ Pure Motorcycling และการเปิดโอกาสให้ลูกค้า และผู้ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ของเราได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แท้จริง เราตั้งใจสร้างวัฒนธรรมการขับขี่ในประเทศต่างๆ และมีความสุขเสมอเมื่อเห็นลูกค้าของเราดึ่มด่ำไปกับการขับขี่เพื่อการพักผ่อนโดยใช้มอเตอร์ไซค์ Royal Enfield การแข่งแฟลตแทร็กได้รับความนิยมในเอเชียแปซิฟิคบางประเทศ เช่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยเราวางแผนว่า โรงเรียน Royal Enfield Slide พร้อมด้วยพันธมิตรของเรา จะช่วยแนะนำ และช่วยเหลือนักขี่ทุกระดับ เพื่อให้เข้าถึงกีฬาชนิดนี้”
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ Royal Enfield
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ