กรมการขนส่งทางบก กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบเพื่อตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
จิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งมั่นพัฒนาระบบการขนส่งทางถนน และยกระดับการให้บริการตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยการใช้นวัตกรรมเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับมาตรฐานการขนส่งทางถนนทั้งระบบ ให้มีคุณภาพ และปลอดภัย เน้นความเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ สอดคล้องตามนโยบายของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ทุกหน่วยงานพัฒนาระบบการกำกับดูแล และพัฒนาการให้บริการประชาชนโดยใช้ระบบ IT หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชนอย่างแท้จริง และนำไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทอลตามนโยบายรัฐบาล สำหรับความร่วมมือระหว่าง กรมการขนส่งทางบก และสำนักงาน คปภ. ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานร่วมกันเพื่อคุ้มครองสิทธิ และดูแลประชาชน เนื่องจากประกันภัยรถภาคบังคับ ตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พศ. 2535 นั้น รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องทำ และมีไว้เพื่อเป็นหลักประกัน กรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือความเสียหายจากการใช้รถ เพื่อให้คนในรถทุกคันได้รับสิทธิดังกล่าว หรือผู้ที่ใช้รถใช้ถนน ให้ได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองจากอุบัติเหตุ หรือการประสบภัยจากรถในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจากปัญหาความล่าช้า และไม่ถูกต้องในการรับชำระภาษีรถประจำปี ที่ในปัจจุบันการรับชำระภาษีรถยังคงใช้หลักฐานการจัดทำประกันภัยรถ ที่ยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครองเป็นเอกสารประกอบ ทำให้เกิดภาระทั้งกับประชาชนผู้ใช้บริการ และหน่วยงานของรัฐในการจัดเก็บเอกสารหลักฐานดังกล่าว ดังนั้นแล้วความร่วมมือในการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ จะช่วยแก้ไขปัญหา และเพิ่มความสะดวก รวดเร็วให้กับประชาชนผู้ใช้บริการให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับสำนักงาน คปภ. เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบการจัดทำประกันภัย พรบ. ให้กับประชาชนผู้ใช้บริการต่อภาษีรถมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายของทั้ง 2 หน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล รวมถึงจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจระหว่าง 2 หน่วยงาน โดยสำนักงาน คปภ. จะส่งเสริมการให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่บุคลากรของกรมการขนส่งทางบก และประชาชนทั่วไป ตลอดจนจะประสานความร่วมมือในการดำเนินโครงการ หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการต่อยอด และพัฒนาความก้าวหน้าในการกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาสำนักงาน คปภ. ได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลการจัดทำประกันภัย พรบ. ผ่านระบบสินไหมอัตโนมัติ (E-Claim System) ซึ่งเป็นระบบการจัดการค่าสินไหมทดแทนของการประกันภัย พรบ. ซึ่งโรงพยาบาลและ/หรือสถานพยาบาลส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กว่า 90 % ของการจัดการค่าสินไหมฯ ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุจากรถ ดำเนินการที่โรงพยาบาลและ/หรือสถานพยาบาล จึงอยากประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมด้วยว่า ถ้าสถานพยาบาลทุกแห่งใช้ระบบ E-Claim อย่างครบถ้วน ผู้ประสบภัยจากรถจะไม่ต้องสำรองจ่ายทั้งค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทนส่วนเกินค่าเสียหายเบื้องต้น นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ว จะเป็นผลให้ระดับของการรักษาอยู่ในขั้นที่เพียงพอ โดยไม่ต้องรอหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่อผู้ประสบภัยให้เจอก่อน จึงจะทำการรักษาต่อไปได้
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ กรมการขนส่งทางบก
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ