จากความนิยมรถประเภทครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในยุโรป ค่าย Peugeot (เปอโฌต์) จึงได้ปรับเปลี่ยนโฉม Peugeot 3008 ปี 2021 ใหม่ ทั้งภายนอก และภายใน แบบไมเนอร์เชนจ์
เจเนอเรชันแรกของ Peugeot 3008 ถูกเปิดตัวครั้งแรกโดย French automotive Peugeot ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Groupe PSA ในเดือนพฤษภาคม 2008 แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์การออกแบบกันมาก แต่ 3008 เจเนอเรชันแรก ก็ได้รับการยกย่องจากนิตยสารรถยนต์ What Car ? โดยมอบรางวัล Car of the Year ประจำปี 2010 และยังได้รับรางวัลรถยนต์ Semperit Irish Car of the Year ประจำปี 2010 ในไอร์แลนด์ อีกด้วย
Peugeot ได้เปิดตัว 3008 เจเนอเรชันที่ 2 ใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2016 และได้กล่าวว่า 3008 คันนี้ จะเป็นก้าวใหม่ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นยานยนต์ชั้นยอดที่มียอดขายสูงสุด และในเดือนพฤศจิกายน 2016 นั้นเอง Peugeot 3008 เจเนอเรชันที่ 2 ก็ได้รับรางวัล “Car of the Year”จาก CarBuyer
Peugeot 3008 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กลายเป็นรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้ารางวัลใหญ่ Car of the Year 2017 ได้สำเร็จ ต่อมา Peugeot 3008 และ 5008 ยังได้กวาดรางวัลไปทั่วโลกกว่า 30 รางวัล อาทิ รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 (2017 European Car of the Year), รถใหม่ยอดเยี่ยมปี 2019 “New Car of the Year” โดย Auto Trader New Car Awards, ดีไซจ์นภายนอก และห้องโดยสารยอดเยี่ยม 2017 (Red Dot Product Design Award) สำหรับ Peugeot 3008, บแรนด์ที่เชื่อถือได้มากสุดในปี 2019 “Most Dependable Volume Brand” โดย JD POWER UK Vehicle Dependability Study และรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี “International Engine of the Year” 4 ปีซ้อน (2015 – 2018)
Peugeot 3008 ไมเนอร์เชนจ์ 2021 นี้ ได้เปลี่ยนใหม่หมดทั้งไฟหน้า และกระจังหน้า มีความเฉียบคมมากขึ้น การออกแบบไฟหน้าคล้ายกับ Peugeot 508 ที่ลดส่วนเว้าของไฟหน้าลงจากเดิม กระจังหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น
ป้าย “3008” ถูกเพิ่มไว้เหนือโลโก
ห้องโดยสารถูกตกแต่งให้มีความหรูหรามากขึ้น หน้าจอทัชสกรีนอินโฟเทนเมนท์กลางคอนโซลเพิ่มจากขนาด 8 นิ้ว มาเป็น 10 นิ้ว รูปแบบจอแสดงผลสำหรับคนขับแบบดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว ที่ดูไฮเทค และทันสมัย มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง Normal, Sport และ Eco ส่วนรุ่นไฮบริดมีทั้งโหมด Electric, Hybrid, Sport และ 4WD
ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ การตรวจจับผู้ใช้ทางเท้า และสัตว์ในเวลากลางคืน สามารถตรวจจับวัตถุด้านหน้ารถได้ไกลถึง 250 ม. พร้อมยังสามารถตรวจจับคนเดินบนถนน และจักรยานพร้อมระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ในช่องจราจรอีกด้วย
ส่วนเครื่องยนต์ของ 3008 นั้นมีหลายแบบ ตั้งแต่เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลัง 130 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ, เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร พละกำลัง 180 แรงม้า, เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 130 แรงม้า
ขุมพลังเบนซินพลัก-อิน ไฮบริด Hybrid 225 e-EAT8 ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 180 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 110 แรงม้า มีพละกำลังรวมสูงสุด 225 แรงม้า แรงบิด 36.7 กก.-ม. (360 นิวตัน-เมตร) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม.
ส่วนรุ่นพลัก-อิน ไฮบริดรุ่นสูงสุด Hybrid4 300 e-EAT8 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 200 แรงม้า รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขนาด 110 แรงม้า ที่เพลาหน้า และ 112 แรงม้า ที่เพลาหลัง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิด 53.0 กก.-ม. (520 นิวตัน-เมตร) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.
ฮบริดทั้ง 2 รุ่น ใช้ชุดแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 13.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถเคลื่อนที่ได้ระยะทาง 56 กม. (WLTP) และ 59 กม.
Peugeot จะเริ่มจัดจำหน่าย 3008 ไมเนอร์เชนจ์ ในภูมิภาคยุโรปเป็นแห่งแรก ช่วงปลายปี 2020 ก่อนจะทยอยทำตลาดอีกหลายประเทศตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป ส่วนในตลาดประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวในปี 2021 แฟนรถยนต์เมืองน้ำหอม เก็บเงินรอได้เลย