ธุรกิจ
Lamina ประกาศปรับตัวเข้าสู่วิถี New Normal นำเสนอบริการทางอิเลคทรอนิคส์ที่หลากหลาย

Lamina ผู้นำตลาดฟีล์มกรองแสงระดับพรีเมียมในประเทศไทย ประกาศปรับตัวเข้าสู่วิถี New Normal นำเสนอบริการทางอิเลคทรอนิคส์ที่หลากหลาย พร้อมผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้งานตามวิถีชีวิตมาตรฐานใหม่ มั่นใจรักษาส่วนแบ่งตลาด 33 % แม้ตลาดรถยนต์หดตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้
จันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายฟีล์มกรองแสงรถยนต์ บ้าน และอาคาร Lamina (ลามินา) ฟีล์มกลุ่มพิเศษ Luma (ลูมาร์) ผลิตโดยซีพีฟีล์ม อิงค์ มาตรฐานไอเอสโอ 9001 ในเครือบริษัท อีสต์แมน เคมิคัล จากสหรัฐอเมริกา และอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ Thule (ธูเล) จากประเทศสวีเดน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เคลือบปกป้องรถยนต์ เรือ อากาศยาน Tribos (ทไรบอส) จากประเทศอังกฤษ และฟีล์มนิรภัยติดกระจกด้านนอกรถคุณภาพสูง Bray (บเรย์) จากสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ทำให้เกิดแนวคิดในการใช้ชีวิตตามมาตรฐานใหม่ หรือ New Normal ซึ่งเป็นทิศทางที่เกิดขึ้นในระดับสากลโลก ทำให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ ก็ต้องปรับตัวตามเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค รวมถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัยให้สอดคล้องกับทิศทางที่เปลี่ยนไปของตลาด บริษัทฯ ได้มีการปรับตัวเพื่อรับมือกับ New Normal ทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อมการให้บริการ และผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
Lamina มองว่าการเปลี่ยนแปลงสู่วิถีชีวิตปกติใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้น ส่งผลให้ทุกคนต้องเว้นระยะห่างกันมากขึ้น ลดการสัมผัส การใช้เครื่องมือดิจิทอลในชีวิตประจำวัน รวมถึงการใส่ใจดูแลเรื่องสุขภาพจะเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับทุกคนมากขึ้น ทำให้บริษัทเดินหน้าพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ เพื่อให้สามารถดูแล และเอาใจใส่ผู้บริโภคทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบในสถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงการปรับการให้บริการ Lamina Digital to New Normal การให้บริการทางอิเลคทรอนิคส์หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อการขายแบบอี-บโรชัวร์ การให้บริการอี-เพย์เมนท์ ที่ลูกค้าสามารถจ่ายเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โคด การให้บริการจองติดตั้งฟีล์มผ่านทางระบบออนไลน์แบบอี-รีเซิร์ฟ รวมถึงการจัดทำอี-พโรโมชัน เพื่อนำเสนอสิทธิพิเศษให้ลูกค้าถึงบ้านโดยตรง
“ในขณะที่กลุ่มสินค้าฟีล์มกรองแสงของเราก็สามารถตอบรับวิถีชีวิตแบบใหม่ได้ นำทีมโดยฟีล์มกรองแสงกลุ่ม Lamina Digital ที่รองรับทุกสัญญาณดิจิทอล กันร้อน กันยูวีสูง เช่น Lamina Digital Cerametrix ฟีล์มเซรามิคแท้ตัวจริงที่ได้รับความนิยมสูงสุด ดำนอกสว่างใน Lamina Digital Mystery ฟีล์มดิจิทอลกันร้อนสูงช่วยถนอมผิว และสุขภาพดวงตา และใหม่ล่าสุดกับ Lamina Digital CM Series ฟีล์มดิจิทอลนาโนชาโคลบริสุทธิ์ พร้อมฟีล์มรุ่นอื่นๆ ให้เลือกมากกว่า 50 รุ่น”
จากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยที่หดตัวไปอย่างมาก ส่งผลให้ตลาดฟีล์มกรองแสงรถยนต์ตกลงไปด้วยเช่นกัน แต่ Lamina ยังคงมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อบแรนด์ รวมทั้งความต้องการจากกลุ่มผู้บริโภค จะทำให้ Lamina สามารถเติบโตได้เหนือตลาด 5 % เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ 33 % ให้ได้อย่างต่อเนื่องตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในช่วง 5 เดือนแรก มียอดขายรวม 270,591 คัน หดตัว 38.2 % ซึ่งเป็นการหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรกตลาดหดตัวประมาณ 24 % ก่อนที่จะหดตัวอย่างรุนแรงในเดือนเมษายน 65 % และพฤษภาคม 54 % ตามลำดับ และคาดว่าตัวเลขการหดตัวนับจากนี้ น่าจะดีขึ้น เนื่องจากการจัดงานแสดงรถยนต์ และการปลดลอคตามมาตรการของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ในปีนี้ยังคงคาดการณ์ได้ยาก แต่แน่นอนแล้วว่าไม่สามารถทำได้ถึงเป้าหมาย 1 ล้านคัน ที่ประกาศตอนต้นปีก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างแน่นอน ซึ่งมีการประเมินว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้ น่าจะอยู่ที่ระดับ 6-7 แสนคัน แล้วแต่ความสามารถในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติน่าจะเป็นช่วงกลางปี 2564 เป็นต้นไป
“สำหรับตลาดฟีล์มกรองแสงรถยนต์ ก็หดตัวตามอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นเดียวกัน ทำให้ Lamina ต้องติดตามสถานการณ์ของตลาดอย่างใกล้ชิด และเรามั่นใจว่าด้วยความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีให้บริษัทมามากกว่า 25 ปี จะทำให้เราฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแข็งแกร่งแน่นอน”