เอ.พี. ฮอนด้าฯ ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย สร้างสรรค์ทเรนด์การขับขี่รูปแบบใหม่ให้แก่วงการฯ อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุด New Honda CT125 (ฮอนดา ซีที 125) ใหม่ รถ Leisure Bike (เลเชอร์ไบค์) ดีไซจ์นเฉพาะตัว สานตำนานอันโด่งดังจากยุค 60s ของ Original CT Series ผสานเทคโนโลยียุคใหม่ พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ติดตั้งการ์ดเครื่องยนต์ (Engine Guard) ที่แข็งแกร่ง มาพร้อม Carrier แรคหลังขนาดใหญ่ และท่อไอเสียพร้อมกรองอากาศแบบยกสูง เพื่อการลุยน้ำลึก และการผจญภัยแบบทเรล (Trail) มั่นใจด้วยดิสค์เบรคหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรคหน้าแบบ ABS และยาง Dual Purpose Tire (ดูอัล เพอร์โพส) วางจำหน่ายที่เมืองไทยเป็นประเทศแรกของโลก
ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ทเรนด์ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคใหม่ รถในกลุ่มมูลค่าเพิ่มมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดใน 4 เดือนแรกของปี 2020 ก็ยังคงมีการเติบโตมากถึง 20 % โดยหลักๆ แล้วการเติบโตนี้มาจากความนิยมในกลุ่มยังเจเนอเรชัน ที่เติบโตในยุคโซเชียลมีเดีย และมีพฤติกรรมชอบความสนุกท้าทาย โดยเฉพาะในมุมของการท่องเที่ยวแบบเอาท์ดอร์ ลุยไปกับธรรมชาติ ไปยังสถานที่ใหม่ๆ น่าสนใจว่าในปี 2019 สินค้าในกลุ่มเอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์มีการเติบโตขึ้นถึง 30 %
“ในขณะเดียวกัน การเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ไทยก็ไม่ได้ทำให้ Honda หยุดนิ่ง แต่เรายังคงมุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายให้แก่ผู้ใช้ของเราผ่านการทำตลาดด้วยสินค้าในกลุ่มมูลค่าเพิ่ม ครั้งนี้ เราพร้อมนำเสนอรถรุ่นใหม่ New Honda CT125 วางตำแหน่งสินค้าเป็นรถขี่ง่ายสายลุย เจาะตลาดไลฟ์สไตล์แบบเอาท์ดอร์ ด้วยการถ่ายทอดการผจญภัยของ CT Series ซึ่งเป็นรถที่ได้ความนิยมในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย มาตั้งแต่ปี 1960 จนกลายเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบัน และในวันนี้คนไทยจะมีโอกาสได้สัมผัสกับรถรุ่นนี้เป็นประเทศแรกก่อนใครในโลก นี่คือรถที่นำเสน่ห์ของ CT มาผสานกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Honda ในปัจจุบัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้คนไทยได้สัมผัส และสนุกกัน”
New Honda CT125 รถจักรยานยนต์แนวใหม่สไตล์ Trail Hunter เป็นการนำเสนอเพื่อจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจด้วยคอนเซพท์ “Time to Trail ได้เวลาออกนอกเส้นทาง” ออกแบบทุกรายละเอียดให้สะท้อนเอกลักษณ์ของสุดยอดรถแห่งการผจญภัยระดับตำนานของ CT Series ตั้งแต่ปี 1960 ดีไซจ์นเพื่อไลฟ์สไตล์ Explore ที่แท้จริง ด้วยเอกลักษณ์การขับขี่แบบ Single Riding “ขับคนละคันมันส์กว่า” ให้ผู้ขับขี่ได้ลุยไปกับเพื่อนๆ พร้อมด้วย Carrier แรคหลังขนาดใหญ่ (47.7×40.9 ซม.) รองรับทุกสัมภาระ ท่อไอเสีย และกรองอากาศยกสูงสำหรับลุยน้ำลึก เพื่อการผจญภัยแบบ Trail ขนานแท้ โดดเด่นด้วยไฟส่องสว่างรอบคันเต็มระบบแบบ Full LED เรือนไมล์ LCD ทรงกลม พร้อมด้วยเทคโนโลยีมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทอลเต็มรูปแบบ ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิคด้วยโลโก Honda Classic Wing สัญลักษณ์ที่มีเฉพาะในมอเตอร์ไซค์แนวไลฟ์สไตล์ของ Honda เท่านั้น
New Honda CT125 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ ขนาด 125 ซีซี ระบบหัวฉีด PGM-FI ให้แรงบิดสูง พร้อม Engine Cover Comp ช่วยลดเสียงเครื่องยนต์ ไม่รบกวนธรรมชาติ ยกชุดมากับการ์ดป้องกันเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่ง ให้ความสนุกทุกเส้นทางการผจญภัย ถังน้ำมันขนาดใหญ่ 5.4 ลิตร เติมครั้งเดียววิ่งไปได้ไกลกว่า 360 กิโลเมตร
New Honda CT125 ติดตั้งระบบกันสะเทือนด้านหน้าที่ออกแบบให้สามารถดูดซับแรงกระแทกได้มากเป็นพิเศษ ด้วยระยะยุบมากกว่าปกติถึง 10 มม. พร้อมยางกันฝุ่นหุ้มชอคอับ ลุยได้มากกว่า เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ มั่นใจด้วยดิสค์เบรคหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรคหน้าแบบ ABS และยาง Dual Purpose Tire
เอ.พี. ฮอนด้าฯ พร้อมวางจำหน่าย New Honda CT125 ที่เมืองไทยเป็นประเทศแรกในโลก ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป สำหรับรุ่นมาตรฐาน มีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ สีแดงโกลวิงเรด และสีน้ำตาลแมทเฟรซโกบราวน์ ราคาแนะนำเพียง 84,900 บาท ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ Honda ยังเพิ่มความพิเศษด้วยเวอร์ชันแต่งเต็มขั้น ด้วยชุดแต่ง H2C จาก Honda มีให้เลือก 2 สไตล์ ได้แก่ City Trail สีแดงโกลวิงเรด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน ราคาแนะนำ 95,900 บาท และ Country Trekking สีน้ำตาลแมทเฟรซโกบราวน์ มีจำนวนจำกัดเพียง 50 คัน ราคาแนะนำ 108,900 บาท วางจำหน่ายเฉพาะที่ CUB House ร้านไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ทุกสาขาทั่วประเทศ
พบกับข้อเสนอพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว
1. ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.59 % เท่านั้น สำหรับ New Honda CT125 ทุกรุ่น
2. พิเศษเมื่อซื้อรุ่นแต่ง City Trail และ Country Trekking ที่ร้าน CUB House ทุกสาขา รับทันที หมวกกันนอ8 Bell Helmet Custom 500 Series พร้อมด้วยประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปี (เมื่อซื้อตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 2563)