การท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ในระยะทางไกล นอกจากต้องวางแผนการเดินทางให้ดีแล้ว การตรวจเชคความพร้อมของรถ เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม “Autoinfo.co.th” รวบรวมหลักการตรวจเชคเบี้ยงต้น ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
1. ตรวจเชคภายนอกรถ
ยางปัดน้ำฝน : ทดลองเปิดใช้งาน หรือถ้าปัดไม่สะอาด เปลี่ยนใหม่ทันที
ยาง : ตรวจเชคสภาพดอกยาง ความดันลมยาง รวมถึงเชคนอทล้อดูว่าขันแน่นดีหรือไม่
ร่องรอยน้ำมันรั่ว : ก้มดูใต้ท้องรถ บริเวณห้องเครื่อง ว่ามีรอยคราบน้ำมันหรือไม่
ไฟส่องสว่าง : ตรวจเชคไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว และไฟอื่นๆ รวมถึงระดับของไฟหน้า ว่ายังปกติดีอยู่หรือไม่
2. ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้ารถ
ระดับน้ำหล่อเย็น : ตรวจดูบริเวณหม้อพักสำรอง ควรมีน้ำอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพัก
กรองอากาศ : ตรวจเชคแผ่นกรองอากาศ ต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ถ้าสกปรกมากให้เปลี่ยน ถ้ายังพอใช้ได้ให้เป่า
แบทเตอรี : เชคระดับน้ำกลั่น ให้อยู่ในระดับที่กำหนด (ดูได้จากเส้นวัดข้างตัวแบทเตอรี) รวมถึงขั้วต่อแบทเตอรีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้
หม้อน้ำ และท่อยาง : ตรวจดูหน้าหม้อน้ำ ต้องไม่มีสิ่งใดมาขวางทางระบายอากาศ และตรวจดูท่อยางต้องอยู่ในสภาพดี
สายพานต่างๆ : ต้องไม่มีรอยแตกลายงา หรือเลอะน้ำมันต่างๆ สายพานต้องตึงกำลังดี และไม่มีเสียงดัง
ระดับน้ำมันต่างๆ : ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรค คลัทช์ และน้ำมันเพาเวอร์ อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ระดับน้ำมันเครื่อง : ตรวจเชคเมื่อเครื่องเริ่มเย็นแล้ว ระดับน้ำมันเครื่องต้องอยู่ระหว่าง F กับ L (ควรเติมให้ถึง F จะดีที่สุด)
3. ตรวจเชคภายในรถ
แตร : ทดลองกดดู ต้องมีเสียงดังเป็นปกติ
ฟิวส์ : ตรวจเชคฟิวส์ต่างๆ รวมถึงฟิวส์สำรอง ต้องมีขนาดค่ากระแสตามกำหนด
ยางอะไหล่ และแม่แรง : ตรวจเชคลมยางอะไหล่ และต้องแน่ใจว่า แม่แรง และด้ามขัน ใช้งานได้ปกติ
แผงควบคุม และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง : ตรวจเชคสวิทช์ ไฟเลี้ยว ปัดน้ำฝน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ สามารถใช้งานได้ปกติ
ความดันลมยางที่เหมาะสม ควรเติมเท่าใด ?
ความดันลมยาง ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของการเดินทางไกล การเติมแรงดันลมยางให้ได้ระดับที่เหมาะสมนั้น ต้องนำค่าต่างๆ จากน้ำหนักบรรทุก ความเร็วเฉลื่ย รวมถึงค่าต่างๆ ของยางและวงล้อมาคำนวณ ถึงจะได้ค่าที่เหมาะสม แต่อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะรถทุกคัน ผู้ผลิตจะมีตัวเลขความดันที่เหมาะสมมาให้อยู่แล้ว (ส่วนใหญ่จะติดไว้บริเวณประตูด้านคนขับ) การเลือกเติมลมยางให้เหมาะสม จะทำให้รถมี เสถียรภาพ ความนุ่มนวล และเกิดความปลอดภัยสูงสุด แต่หากต้องเดินทางไกล และใช้ความเร็วสูง อาจเติมลมมากกว่าปกติประมาณ 3-5 ปอนด์ ช่วยลดการบิดตัวของโครงสร้างยาง ทำให้เกิดความร้อนน้อยลง ความดันลมยางทั่วไป รถเก๋ง ประมาณ 28-32 ปอนด์/ตารางนิ้ว ส่วนรถพิคอัพ ประมาณ 35-40 ปอนด์/ตารางนิ้ว (ไม่บรรทุกหนัก)