MG 6 โฉมปัจจุบัน เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งนานพอที่จะ Minorchange แล้ว ล่าสุดที่ประเทศจีนมีภาพ Teaser ของ MG 6 ออกมา และมีรายงานข่าวว่าจะปรับปรุงขุมพลังเบนซินเทอร์โบ ที่ให้มีสมรรถนะสูงกว่ารุ่นปัจจุบัน และเพิ่มเครื่องยนต์เบนซินแบบ Plug-in Hybrid
MG 6 ได้เปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Auto Show) ปี 2009 สำหรับประเทศไทยหลังจาก SAIC Motor ประกาศร่วมลงทุนกับ CP ก่อตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตและจำหน่ายรถยนต์ MG ในไทย และอาเซียน โดยเปิดตัว MG 6 เป็นรถยนต์รุ่นแรกในปี 2014 เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ราคา 988,000 บาท ซึ่งตั้งราคาจำหน่ายไว้ใกล้เคียงกับรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น
เนื่องจากเป็นบแรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ทำให้ลูกค้าอาจยังไม่เชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า และบริการหลังการขาย ทำให้ยอดขายในขณะนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้รถยนต์ MG 6 เจเนอเรชันที่ 2 ที่เปิดตัวในประเทศจีนเมื่อปี 2016 ไม่ถูกวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ MG กลับเลือกรุ่น ZS ที่เปิดตัวพร้อมกัน เข้ามาทำตลาดในไทยแทน โดยทั้ง 2 รุ่น มีจุดเด่นอยู่ที่กระจังหน้าแบบใหม่ ซึ่งเป็นภาษาการออกแบบใหม่ของ MG ที่เรียกว่า Star Rider และในประเทศไทย MG ZS ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้ยอดขายรถยนต์ MG ในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
MG 6 Minorchange ใหม่ ยังคงรักษาสไตล์การออกแบบโดยรวมของรุ่นปัจจุบันไว้ ในแง่ของขนาดตัวรถใหม่มีความยาว 4,704/1,848/1,466 มม. และระยะฐานล้อ 2,715 มม. เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นปัจจุบันแล้ว มีความยาวเพิ่มขึ้น 9 มม. โดยมีระยะฐานล้อเท่าเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านหน้าของ MG 6 ปี 2020 ได้รับการออกแบบใหม่เกือบทั้งหมด ตั้งแต่ไฟหน้าที่ดูโฉบเฉี่ยว กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม และโลโก MG ที่ใหญ่กว่าเดิม ด้านหลังเปลี่ยนไฟท้าย พร้อมปรับดีไซจ์นคิ้วโครเมียมฝาท้าย และกันชนหลังใหม่ รวมถึงท่อไอเสียทรงกลมคู่
จากภาพทีเซอร์ยังเผยให้เห็นถึงรูปร่างของคอนโซลกลาง ที่มีหน้าจอควบคุมตรงกลางขนาด 10.1 นิ้ว และคันเกียร์ได้รับการออกแบบใหม่ ส่วนขุมพลังคาดว่ามี 2 แบบให้เลือก คือ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 181 แรงม้า (เพิ่มจากรุ่นเดิม 168 แรงม้า) และเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร Plug-in Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 228 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
สำหรับในประเทศไทย MG จะนำรถซีดานกลับมาทำตลาดอีกหรือไม่ เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้ MG ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากในตลาดมีคู่แข่งสำคัญจากญี่ปุ่นที่แข็งแกร่ง ครองตลาดอยู่ แต่ MG กลับประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถ SUV จากกลยุทธ์การตั้งราคาที่ถูกกว่า และมีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าคู่แข่งเจ้าตลาด ทั้งยังมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามโฉบเฉี่ยว และทันสมัย
ทางเดียวที่รถยนต์ซีดานของ MG จะกลับมาได้ก็คือ การใช้กลยุทธ์เดียวกันกับรถ SUV