เรื่องน่ารู้
“เคอร์ฟิว” ทั่วประเทศ งดออกจากบ้าน 4 ทุ่ม ถึงตี 4

รัฐบาลยกระดับมาตรการควบคุมเชื้อไวรัส COVID-19 ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามบุคคลทั่วประเทศเดินทางออกนอกเคหะสถาน ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ยกเว้นผู้ที่มีความจำเป็น เริ่มตั้งแต่วันนี้ (3 เมย. 63) เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
 จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยทางรัฐบาลได้กำหนดเคอร์ฟิว สั่งห้ามไม่ให้บุคคลใดทั่วประเทศเดินทางออกนอกเคหะสถาน ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เมย. (วันนี้) เป็นต้นไป  ส่วนสาเหตุที่จำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิว เนื่องจากพบว่ามีประชาชนบางส่วนยังแอบเดินทางออกมาเที่ยวตามสถานบันเทิงบางแห่งที่ยังแอบเปิดอยู่ ซึ่งหากดำเนินการตรงนี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้
โดยมีข้อยกเว้น สำหรับผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์, การธนาคาร, การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค, การขนส่งยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์, การขนส่งพลังงาน, การขนย้ายประชาชนสู่พื้นที่ควบคุม, ผู้เข้าออกเวรผลัดกลางคืน, ผู้เดินทางมาจากหรือไปท่าอากาศยาน, การขนส่งสินค้าเพื่อนำเข้าส่งออก, เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ คำสั่งต่างๆ โดยให้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นๆ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำ และปรับ
ประกาศดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญในการจำกัดการเดินทาง และการรวมตัวกัน โดยศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูล มาตรการ แก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อ COVID-19 ได้ระบุว่า จากการสำรวจการเดินทางของประชาชนในวันธรรมดาลดลง 20-30 % ซึ่งยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงได้ขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ให้พิจารณาปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ลูกจ้างลดการเดินทาง หรือลดความแออัด เพิ่มระยะห่าง หากยังเปิดโรงงาน และสถานประกอบการอยู่ แน่นอนว่าอาจจะทำให้มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้
 
จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยทางรัฐบาลได้กำหนดเคอร์ฟิว สั่งห้ามไม่ให้บุคคลใดทั่วประเทศเดินทางออกนอกเคหะสถาน ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ตั้งแต่วันที่ 3 เมย. (วันนี้) เป็นต้นไป  ส่วนสาเหตุที่จำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิว เนื่องจากพบว่ามีประชาชนบางส่วนยังแอบเดินทางออกมาเที่ยวตามสถานบันเทิงบางแห่งที่ยังแอบเปิดอยู่ ซึ่งหากดำเนินการตรงนี้จะช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้
โดยมีข้อยกเว้น สำหรับผู้มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์, การธนาคาร, การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค, การขนส่งยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์, การขนส่งพลังงาน, การขนย้ายประชาชนสู่พื้นที่ควบคุม, ผู้เข้าออกเวรผลัดกลางคืน, ผู้เดินทางมาจากหรือไปท่าอากาศยาน, การขนส่งสินค้าเพื่อนำเข้าส่งออก, เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ คำสั่งต่างๆ โดยให้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้นๆ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำ และปรับ
ประกาศดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญในการจำกัดการเดินทาง และการรวมตัวกัน โดยศูนย์ปฏิบัติการด้านข้อมูล มาตรการ แก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อ COVID-19 ได้ระบุว่า จากการสำรวจการเดินทางของประชาชนในวันธรรมดาลดลง 20-30 % ซึ่งยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงได้ขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ให้พิจารณาปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ลูกจ้างลดการเดินทาง หรือลดความแออัด เพิ่มระยะห่าง หากยังเปิดโรงงาน และสถานประกอบการอยู่ แน่นอนว่าอาจจะทำให้มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้                    


