"แฟร์รารี กแรนด์ ทัวร์" นิทรรศการรวมสุดยอดรถ จากค่ายม้าลำพอง

พิพิธภัณฑ์ เอนโซ แฟร์รารี ในเมืองโมเดนา ได้จัดแสดงนิทรรศการ “แฟร์รารี กแรนด์ ทัวร์–การเดินทางแห่งความงดงาม และมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล” ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ เอนโซ แฟร์รารี เพื่อเฉลิมฉลองให้กับชื่อเสียงอันโด่งดังทั่วโลก และความสำเร็จอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของบแรนด์ ซึ่งทรงอิทธิพลในโลกแห่งยนตรกรรม ที่ไม่มีใครเสมอเหมือน ตั้งแต่วันที่ถือกำเนิดจนถึงปัจจุบัน   ตัวชูโรงของการเดินทางครั้งนี้ คือ เหล่ารถสไตล์กแรนด์ ทัวเรอร์ สุดหรูของ แฟร์รารี ยนตรกรรมซึ่งไม่เพียงแค่ครองใจเหล่าผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ยังเชื่อมโยงกับเมืองต่างๆ ที่น่าสนใจระดับโลกอีกด้วย ผู้เข้าชมจะได้ร่วมเดินทางไปกับ แฟร์รารี ผ่านซุ้มมัลทิมีเดียทั้ง 5 ซึ่งเป็นตัวแทนของมหานครต่างๆ อาทิ ปารีส, ลอนดอน, นิวยอร์ก, เซี่ยงไฮ้ และอาบูดาบี สร้างปรากฏการณ์น่าประทับใจให้กับผู้มาเยือนด้วยการนำเสนอผ่านภาพ และเสียงอันยอดเยี่ยม ดื่มด่ำเรื่องราวของ แฟร์รารี ที่เชื่อมประสานกับแต่ละเมืองใหญ่และดินแดนแว่นแคว้นใกล้เคียง โดยแต่ละซุ้มจะตั้งอยู่ที่กึ่งกลางของ “คลื่นแห่งพลังงาน” ซึ่งกำหนดบริบทให้กับรถ แฟร์รารี แต่ละคัน   ในซุ้มของปารีส จะพาเข้าสู่พื้นที่ของทวีปยุโรป โดยมี “วิลล์ ลูมิแยร์” (มหานครแห่งแสงไฟ) และงานจัดแสดงรถยนต์นานาชาติเป็นฉากหลัง เพื่อสื่อถึงช่วงเวลาสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ของ แฟร์รารี ตัวอย่างเช่น เมื่อปี 1949 ที่นี่คือสถานที่เปิดตัวรุ่น 166 อินเตอร์ ทัวริง รถคูเปที่มาพร้อมกับเส้นสายอันงดงาม จนส่งให้ แฟร์รารี มีชื่อเสียงเกรียงไกร ซึ่งถูกนำมาจัดแสดงไว้บริเวณนี้ นอกจากนั้น ยังมีช่วงเวลาอันน่าจดจำมากมายให้ได้ชม นั่นรวมถึง แฟร์รารี 375 เอมเอม ซึ่ง โรเบร์โต รอสเซลลินี มอบหมายให้ ปินินฟารีนา สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพียงคันเดียวเพื่อมอบให้กับ อิงกริด เบิร์กแมน ภรรยาของเขา   ด้วยการผสานความล้ำสมัยเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมของวงการมอเตอร์สปอร์ทได้อย่างชาญฉลาด งานกูดวูด (Goodwood-Festival of Speed) จึงยังคงเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง สหราชอาณาจักรยกย่องให้รถ แฟร์รารี เป็นดาวเด่นประจำงาน และที่จะสามารถพบเห็นได้ในนิทรรศการนี้ เช่น แฟร์รารี 330 จีที รถคูเป 2+2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V12 วางด้านหน้า ที่กลายเป็นตำนานอมตะแห่งเวสต์มินส์เตอร์, สหราชอาณาจักร ในปี 1964 เมื่อทีม มาราเนลโล คอนเซสชันเนร์ ของ โคโลเนล รอนนี โฮร์ นักแข่งชื่อดังแห่งกูดวูด นำเอายนตรกรรมคันนี้ไปแสดงต่อเหล่าลูกค้าของเขา   สำหรับสหรัฐอเมริกา ก็เป็นดินแดนที่มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับ แฟร์รารี เช่นกัน มิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่ได้มาจากศิลปินทางดนตรีอย่างเช่น ไมลส์ เดวิส และนักแสดงฮอลลีวูด เจน แมนส์ฟิลด์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมที่มีชื่อเสียงมากมาย รวมถึงงาน  30  มิลเลียน  คาร์  แรลลี ปี 2016 ซึ่งมีรถรุ่น  250  จีที เบอร์ลิเนตตา เอสดับเบิลยูบี   ปี 1959 ที่ได้รับการยกย่องจากบรรดานักสะสมว่าเป็นรถแบบจีทีที่ยอดเยี่ยมที่สุด เข้าร่วมงานด้วย โดยรถรุ่นดังกล่าวมีชื่อเสียงในเรื่องของเส้นสายตัวถังอันเป็นเอกลักษณ์ และชนะการแข่งขันมาอย่างมากมาย ซึ่งก็มีจัดแสดงในนิทรรศการด้วยเช่นกัน   จากการหลอมรวมเอาความงามแบบโบราณของตะวันออกไกล เข้ากับวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างพอเหมาะลงตัว เซี่ยงไฮ้จึงเป็นมหานครที่ไม่ธรรมดา ความโดดเด่นนี้ถูกนำมาขับให้นิทรรศการน่าสนใจยิ่งขึ้นผ่านภาพลักษณ์ของ 599 จีทีบี ฟิโอราโน ซึ่งได้รับการตกแต่งตัวถังด้วยลวดลายสไตล์เครื่องลายครามสมัยราชวงศ์ซ่ง ด้วยฝีมือของศิลปินนาม ลู ห่าว ส่วนรถที่จัดแสดงเคียงคู่อยู่กับศิลปะระดับมาสเตอร์พีศคันนี้ก็คือ แฟร์รารี 612 สกาลีเญตตี ซึ่งเมื่อปี 2005 หรือเพียงแค่ 1 ปีหลังจากเปิดตัว รถรุ่นนี้ถูกนำไปพิสูจน์ความสะดวกสบาย และสมรรถนะผ่านการเดินทางไกลกว่า 24,000 กม. ทั่วประเทศจีน นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงภาพถ่ายของ แฟร์รารี โปร์โตฟิโน ปี 2018 ในย่านชิบุยาของโตเกียว ซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งเมืองแห่งความมีชีวิตชีวาของเหล่า แฟร์ราริสตา ในตะวันออกไกล   อาบูดาบี คือ หนึ่งในมหานครแห่งตะวันออกกลางที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา และคลั่งไคล้ในม้าลำพองอย่างไม่มีข้อกังขา จนได้รับการจารึกจาก แฟร์รารีเวิร์ลด์ ให้เป็นศูนย์รวมของ แฟร์รารี รุ่นต่างๆ ข้อเท็จจริงก็คือ แฟร์รารี เอฟเอฟ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยนตรกรรมที่ก้าวล้ำทั้งในเรื่องของสไตล์และสมรรถนะ ได้รับการเปิดตัวที่นี่ในปี 2011 ไม่นานหลังจากที่รถรุ่นนี้ เปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา และในซุ้มยังแสดงเรื่องราวของงานอินเตอร์เนชันแนล เควัลเคด ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 25 ปี ของ แฟร์รารี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรด ด้วยขบวน แฟร์รารี ที่มารวมตัวกันมากกว่า 100 คัน   นิทรรศการ กแรนด์ ทัวร์ เวียนมาถึงอิตาลี พร้อมกับ แฟร์รารี โรมา ผลงานชิ้นเอกล่าสุดจาก มาราเนลโล สไตล์ เซนเตอร์ ยนตรกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นจากการนำเอาความงดงามที่ซับซ้อนละเอียดอ่อนในยุค ’50 และ ’60 มาผสมผสานเข้ากับความรุ่งโรจน์ร่วมสมัย กลายเป็นทางเลือกแห่งสุนทรียะ และวิถีชีวิตอันสมบูรณ์แบบ ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่ในอิตาลีเท่านั้น แต่ถูกเผยแพร่ไปทั่วทั้งโลก เช่นเดียวกับการเปิดตัวของนิทรรศการนี้