สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกับ สำนักงาน คปภ. กำหนดหลักเกณฑ์การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโดยปรับเพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ ประกันภัย พรบ. จากเดิม 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท โดยไม่ขึ้นค่าเบี้ยประกันภัย และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ปรับความคุ้มครองขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท ผู้ประสบภัยจากรถได้รับค่าสินไหมทดแทนทั้งสองกรมธรรม์รวมกัน ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท/ราย เป็นการยกระดับมาตรฐานการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเป็นธรรม และรวดเร็ว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
อานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน คปภ. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ร่วมพิจารณาปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ทั้งการประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจ เพื่อยกระดับมาตรฐานในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน และเป็นธรรม โดยมีสาระสำคัญ คือ การปรับเพิ่มจำนวนเงินความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ ประกันภัย พรบ. กรณีผู้ประสบภัยจากรถเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือสูญเสียอวัยวะถึงขนาดที่กำหนด จาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มค่าเบี้ยประกันภัยแต่อย่างใด และปรับความคุ้มครองการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ โดยกำหนดเกณฑ์ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500,000 บาท หากประชาชนที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุทางรถ จะได้รับความคุ้มครองทั้งจากประกันภัย พรบ. และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ รวมกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท/ราย โดยมีผลคุ้มครองเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
สำหรับการปรับเพิ่มความคุ้มครองกรมธรรม์การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พรบ.) และการกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ประชาชนที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรม สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ สามารถลดข้อโต้แย้งระหว่างบริษัทประกันภัย และผู้เสียหายลงได้ ซึ่งจากบทเรียนที่ผ่านมาในหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การจ่ายค่าสินไหมทดแทนในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งการปรับเพิ่มความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พรบ.) นี้ ได้เคยมีการปรับเพิ่มมาเป็นลำดับ โดยปรับเพิ่มจาก 200,000 บาท เป็น 300,000 บาท เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 และครั้งนี้ปรับเพิ่ม จาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท ซึ่งผลจากการเพิ่มความคุ้มครองโดยไม่เพิ่มค่าเบี้ยประกันภัยนี้ คาดว่าจะทำให้บริษัทประกันภัยต้องแบกรับภาระต้นทุนความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินกว่า 2,700 ล้านบาท แต่การปรับเพิ่มความคุ้มครองในครั้งนี้ สมาคมฯ เชื่อว่าจะสามารถลดข้อโต้แย้งระหว่างบริษัทประกันภัย และผู้เสียหายลงได้ ที่สำคัญประชาชนได้รับประโยชน์ และเกิดความเชื่อมั่นในการได้รับความคุ้มครอง และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และเป็นธรรมมากขึ้น
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ สมาคมประกันวินาศภัยไทย
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ