เรื่องน่ารู้
Dunlop Grandtrek AT5/Dunlop Enasave Premium+ Test Drive


บริษัท ดันลอป ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบยางรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ทั้ง Grandtrek AT5 ลุย แกร่ง ทุกสภาพถนน และ Enasave Premium+ ยางประหยัดน้ำมัน ณ สนามทดสอบ โตโยตา ดไรวิง เอกซ์พีเรียนศ์ พาร์ค ถนนบางนา-ตราด กม. 3 กรุงเทพฯ
ภายในงานได้มีการจัดให้สื่อมวลชน ร่วมทดสอบประสิทธิภาพของยางรุ่นใหม่ โดยในส่วนของยาง Grandtrek AT5 ใช้รถยนต์ทดสอบเป็นรถ Toyota Hilux Revo รุ่นล่าสุด ใส่ยางขนาด 265/65R17 เปรียบเทียบกับยาง Dunlop รุ่น Grandtrek AT3 โดยแบ่งการทดสอบทั้งในส่วนของสภาพถนนปกติ (On road test) ซึ่งมีการทดสอบเรื่องเสียง, การควบคุมการขับขี่, การเปลี่ยนเลนกะทันหัน และการเบรคบนพื้นเปียก


รวมไปถึงการทดสอบในส่วนของสถานี 4x4 (Off road test) ทั้งการขึ้นเนินลาดชัน การจำลองวิ่งผ่านพื้นที่มีหินกรวด การวิ่งในอุโมงค์แคบที่ลาดเอียง การจำลองการขับขี่บนเนินสลับ (twist track) เป็นต้น
Grandtrek AT5 เป็นยางแกร่ง สามารถพาลุยทุกสภาพถนน ยางที่เหมาะกับรถกระบะ (Pick up), รถกระบะยกสูง ทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ(4WD), รถกระบะดัดแปลง (PPV) รวมไปถึงรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี และเอสยูวี สามารถตอบโจทย์ทั้งทางเรียบ (on road) และทางลุย (off road) ด้วยการดีไซจ์นลายดอกยางใหม่ รวมทั้งส่วนผสมเนื้อยางใหม่ (Super Abrasion Carbon) ทำให้มีคุณลักษณะเฉพาะที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้าอย่าง Grandtrek AT3 ทั้งในเรื่องของการสึกหรอที่ช้าลง ทำให้ใช้งานได้นานขึ้น 50 %, เสถียรภาพในการทรงตัว ควบคุมการ
ขับขี่ดีขึ้น 25 % และประสิทธิภาพในการยึดเกาะบนถนนเปียกมากขึ้น 10 % รวมทั้งเทคโนโลยีตัวใหม่อย่าง Stone Ejector ที่ช่วยไล่เศษหินออกจากร่องดอกยาง ช่วยป้องกันความเสียหายบริเวณหน้ายางจากเศษหิน
Grandtrek AT5 มีให้เลือก 15 ขนาด ตั้งแต่ขอบ 15-20 นิ้ว หน้ากว้าง 225-285 มม. ในซีรีส์แก้มยาง 50-70 และมีทั้งขอบตัวหนังสือขาว และตัวหนังสือดำ
ส่วนยางรถยนต์นั่งสุดพรีเมียมอย่าง ยาง Enasave Premium+ ที่สุดของยางประหยัดน้ำมัน ใช้ Toyota Camry รุ่นล่าสุด ใส่ยางขนาด 215/55R17 เปรียบเทียบกับยางคู่แข่ง โดยมีการสาธิตก่อนการร่วมทดสอบ ถึงประสิทธิภาพค่าสัมประสิทธิ์ของความต้านทานการหมุน (Rolling Resistance Coefficient) เปรียบเทียบโดยการปล่อยรถยนต์ทั้ง 2 คันให้ไหลลงจากรถสไลด์ออนในองศาที่เท่ากัน ซึ่งจากการทดสอบจะเห็นได้ชัดเจนว่า ยาง Enasave Premium+ มีค่าความต้านทานการหมุนต่ำกว่า และไปได้ไกลกว่ายางคู่แข่ง ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า
Enasave Premium+ ได้การรับรองมาตรฐานจาก *UN/ECE ในระดับเกรด A-A ทั้งในหัวข้อ การลดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสมรรถนะการยึดเกาะบนถนนเปียก ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของยาง Dunlop ในประเทศไทย ที่ได้รับมาตรฐาน ระดับ A-A จาก *UN/ECE ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
นอกจากนี้ทาง Dunlop ให้สื่อมวลชนร่วมทดสอบในแต่ละสถานี ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบเรื่องเสียง, การควบคุมการขับขี่ และการเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน รวมไปถึงการเบรคบนพื้นเปียก ซึ่งเป็นอีกคุณสมบัติเด่นของยางตัวนี้ที่ใช้ Wet Grip Powder เทคโนโลยีเดียวกับที่พัฒนายางรถแข่งสำหรับใช้ในหน้าฝน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะบนถนนเปียก ซึ่งรถคันที่ใช้ยาง Enasave Premium+ ให้ประสิทธิภาพดีกว่ายางคู่แข่ง
สำหรับ Enasave Premium+ ยางประหยัดน้ำมันรุ่นนี้ ในช่วงแรกเริ่มจำหน่ายเฉพาะขนาด 215/55R17 ซึ่งเหมาะกับรถเก๋งขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
โดยทั้ง 2 รุ่นพร้อมวางจำหน่ายปลายเดือนมีนาคม 

