รัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่ดูแลด้านแผนการคมนาคม ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนจุดชาร์จด่วนสำหรับรถไฟฟ้าภายในประเทศ ให้ได้ถึงสองเท่า ภายในระยะเวลา 4 ปี เพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้บริโภคนิยมใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอังกฤษ ประกาศแผนงานที่จะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล ภายในปี 2583 และพิจารณาหาแนวทางเสริม เพื่อให้สามารถกระทำได้ตามคำสัญญา George Freeman รัฐมนตรี มีหน้าที่กำกับดูแลด้านการขนส่งแห่งรัฐ เชื่อว่า จะสามารถทำได้ตามคำมั่น ทั้งในด้านการลงทุน และโครงสร้างเพื่อรองรับรถยนต์พลังงานชนิดใหม่ อันจะช่วยเปลี่ยนความคิดของผู้บริโภค ให้หันมาใช้รถไฟฟ้า จากรายงานของคณะทำงานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบุว่า การที่จะทำให้สามารถเป็นไปได้ตามเป้าหมายนั้น เพื่อเปลี่ยนถ่ายให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และพลังงานชนิดใหม่ ท่านรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่า ในอังกฤษ มีจุดชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 24,000 แห่ง นับว่าก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป แต่กระนั้นก็ยังต้องการให้มีจุดชาร์จเพิ่มขึ้นอีก “ภายในปี 2567 ผมอยากจะเห็นจุดชาร์จด่วน เพิ่มขึ้นอีก ให้มากกว่า 5,000 จุด” เขากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนทั่วประเทศ มองเห็นโอกาสในการใช้รถไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน รวมทั้งจะต้องคำนึงถึงในอนาคต เมื่อมีผู้คนใช้รถไฟฟ้าจำนวนมาก และเราต้องเพิ่มจำนวนจุดชาร์จให้มากขึ้นอีก” การเปลี่ยนถ่ายไปสู่การใช้งานรถไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศอังกฤษ ก้าวไปสู่ประเทศปลอดมลภาวะอย่างแท้จริง ทั้งนี้เพราะโลกเองก็กำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงสภาพดินฟ้าอากาศ ซึ่งทำให้เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ จากรายงานของกลุ่มพลังงานไฟฟ้า นำเสนอวิธีการหลากหลายที่จะสนับสนุนให้ผู้บริโภค หันมาใช้รถไฟฟ้าในชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมทั้งสามารถอนุญาตให้มีการใช้จุดชาร์จไฟฟ้าข้ามค่าย หรือข้ามผู้ให้บริการ ระหว่างกัน รวมทั้งเตรียมแคมเปญเพื่อส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจด้านรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งจากผู้ผลิตและอุตสาหกรรมพลังงาน