บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี (ไทยแลนด์) จำกัด จัดพิธีลงนามความร่วมมือด้านการลงทุนการดำเนินธุรกิจการให้บริการดิจิทอล หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ ที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีดิจิทอลในภาคอุตสาหกรรม ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจของผู้ประกอบการ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม และเชื่อมโยงสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน
วิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ (ปตท.) กล่าวว่า การลงนามร่วมทุนในครั้งนี้ ปตท. มีความมุ่งมั่นในการเดินหน้ายุทธศาสตร์การลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยต่อยอดจากการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ ปตท. มีความชำนาญอยู่เดิมมาร่วมพัฒนา เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ ในภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทอล ซึ่งการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการดำเนินงานที่คล่องตัว มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์แนวโน้ม และทิศทางการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม อีกทั้งเป็นการกระตุ้น และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมสามารถพัฒนา และเชื่อมโยงการผลิตสินค้า และบริการผ่านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยในระยะแรก ปตท. และ มิตซุย จะมุ่งพัฒนาการออกแบบระบบ (System Integrator: SI) เพื่อช่วยให้ทั้งผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทอลเป็นพื้นฐาน
บริษัท มิตซุยแอนด์คอมพานี จำกัด (มิตซุย) ประเทศญี่ปุ่น ผู้นำในกลุ่มธุรกิจเทรดดิง และการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน ได้มีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลายาวนานผ่านบริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งแต่ช่วงปี 2500 เป็นต้นมา มิตซุย ได้ดำเนินธุรกิจในหลากหลายด้านครอบคลุมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและแกส เหล็ก โครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักร ยานพาหนะ เคมีภัณฑ์ อาหาร และไอซีที ด้วยประสบการณ์อันยาวนานด้านธุรกิจของ มิตซุย ไม่ว่าจะเป็น ด้านการตลาด การเงิน การบริหารด้านโลจิสติคส์ การบริการความเสี่ยง รวมถึงฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง มิตซุย มีความมุ่งมั่นที่จะนำความเชี่ยวชาญดังกล่าว มาเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการให้บริการที่ครบวงจรแก่ลูกค้าร่วมถึงพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทย ให้ไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน
“ความร่วมมือในวันนี้ จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมมีการใช้ระบบหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เกิดการขยายตัวของการผลิต นำไปสู่การใช้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติอย่างแพร่หลาย สอดคล้องกับอุตสาหกรรม New S-Curve ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของประเทศ อันจะเป็นกลไกที่ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดีขึ้น และนำพาประเทศก้าวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานของนวัตกรรม (Innovation-driven economy) สามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดโลกได้ในอนาคต”
บทความแนะนำ เกี่ยวกับ ปตท.
บทความแนะนำ คอลัมน์ ธุรกิจ