ธุรกิจ
โรลล์ส-รอยศ์ เปิดตัวราชันแห่งรัตติกาล บแลค แบดจ์ คัลลิแนน
บแลค แบดจ์ สะท้อนถึงความปรารถนาของลูกค้าเฉพาะกลุ่มของ โรลล์ส-รอยศ์ ซึ่งได้แก่บรรดาสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ผู้หลงใหลในความตื่นเต้น กล้าที่จะฉีกกฎเกณฑ์ และเป็นผู้สร้างความสำเร็จด้วยวิถีของตัวเอง ที่จริงแล้ว ก่อนที่เราจะเปิดตัว บแลค แบดจ์ ช่วงปี 2559 แนวคิดแห่งการสร้างสรรค์ยนตรกรรมเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าผู้มีความมั่นใจ และกล้าที่จะออกนอกกรอบคติของความงามนั้น ได้เคยเป็นที่ถกเถียง และหยิบยกขึ้นมาหารือกันอย่างร้อนแรงภายในองค์กร อย่างไรก็ตาม เมื่อนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือของบแรนด์ได้เริ่มต้นออกแบบ และสรรค์สร้างอีกหนึ่งตัวตนใหม่ของ โรลล์ส-รอยศ์ ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนว่า ยนตรกรรมนี้ ไม่เพียงสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามภายใต้บแรนด์เก่าแก่อันเป็นตำนาน แต่ยังสามารถสร้างนิยามความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับตลาดซูเพอร์ลักชัวรี ด้วยเหตุนี้เอง นี่จึงเป็นเวลาที่ดีสุด สำหรับการเปิดตัว บแลค แบดจ์ ที่ดูองอาจและลุ่มลึกที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ โรลล์ส-รอยศ์ ในนามราชันแห่งรัตติกาล
บแลค แบดจ์ คัลลิแนน
ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรลล์ส-รอยศ์ มอเตอร์ คาร์ส
งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2559 โรลล์ส-รอยศ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้เปิดตัว บแลค แบดจ์ คอลเลคชันยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษ (Bespoke) ที่สะท้อนรสนิยมของเหล่าผู้บริโภคเจเนอเรชันใหม่
ผู้หลงไหลในความหรูหรา ยนตรกรรมอันทรงพลังนี้ได้ตอบโจทย์กลุ่มบุคคลผู้ปฏิเสธที่จะถูกนิยามโดยคติของความหรูหราแบบเดิมๆ และยังมีส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้แก่บแรนด์ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้กับประสิทธิภาพของ โรลล์ส-รอยศ์ ทั้งในความองอาจสง่างาม และความสามารถในการตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่มีข้อแม้
อีกหนึ่งตัวตนของ โรลล์ส-รอยศ์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามนี้ ถูกถ่ายทอดผ่านเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ที่เป็นตัวแทนของความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งถูกผสานอย่างแนบเนียนเข้ากับการตกแต่งภายในของรถยนต์ สัญลักษณ์อินฟินิทีนี้ ได้ปรากฎอยู่บนเครื่องบินน้ำ Blue Bird K3 ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ โรลล์ส-รอยศ์ ของ Sir Malcolm Campbell บ่งบอกถึงประเภทของการประกันภัยสำหรับเรือที่มีแรงเครื่องยนต์ไร้ขีดจำกัด ซึ่ง โรลล์ส-รอยศ์ มอเตอร์ คาร์ส เลือกสัญลักษณ์อันเปรียบเสมือนเครื่องหมายรับรองคุณภาพนี้มาใช้กับ บแลค แบดจ์ เพื่อสะท้อนถึงขุมพลังอันไร้ขีดจำกัด
โรลล์ส-รอยศ์ เปิดตัวยนตรกรรม บแลค แบดจ์ ด้วย เรธ และโกสต์ ช่วงปี 2559 ตามด้วยดอว์น ช่วงปี 2560 ณ วันนี้ ทัพยนตรกรรม บแลค แบดจ์ ถูกเติมเต็มด้วย บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ถ้อยแถลงอันเคร่งขรึม และสุขุมลุ่มลึกที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ บแลค แบดจ์
คัลลิแนน ก้าวเข้าร่วมทัพยนตรกรรม บแลค แบดจ์
รังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความกระหายในการผจญภัยของลูกค้ารุ่นใหม่ผู้ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน คัลลิแนน ที่มาพร้อมป้ายโมโนแกรมสีเงิน ได้เปิดตัวท่ามกลางเสียงตอบรับอย่างล้นหลามในปี 2561 และกลายเป็นซูเพอร์ลักชัวรีเอสยูวีระดับทอพของโลกในทันที ด้วยการผสมผสานความหรูหราในรูปแบบที่ชัดเจน เข้ากับการใช้งานและศักยภาพของรถยนต์ออฟโรด คัลลิแนน สามารถมอบประสบการณ์ "Effortless, Everywhere" ให้กับผู้ขับและผู้โดยสารได้อย่างแท้จริง
โรลล์ส-รอยศ์ แห่งเอสยูวี มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่มองหาประสบการณ์เพื่อเติมเต็มชีวิต และแสวงหาอิสระในการผจญภัยในดินแดนที่เข้าถึงได้ยากที่สุดของโลก อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางลูกค้ากลุ่มนี้ ยังมีกลุ่มบุคคลผู้แสวงหาความแตกต่าง เช่น การเปลี่ยนโฉมรูปลักษณ์อันโดดเด่นของยานยนต์ด้วยสีดำสนิท เพื่อแฝงกายเป็นส่วนหนึ่งไปกับความมืดมิดยามราตรี คัลลิแนน สามารถตะลุยไปยังพื้นที่ที่ท้าทายที่สุดของโลกมาได้โดยตลอด และเวลานี้ เป็นเวลาสำหรับ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ในการประกาศศักดาในสมรภูมิแห่งใหม่นี้
ภายนอกของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน: ราชันแห่งรัตติกาล (The King of the Night)
แม้ลูกค้าสามารถเลือกสีได้มากถึง 44,000 เฉดสี ที่ตรียมไว้ให้ หรือสั่งผลิตเฉดสีที่ผสม และออกแบบขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะก็ย่อมได้ แต่กลับเป็นที่คาดเดาได้ว่า ลูกค้าส่วนมากจะเลือกสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของ บแลค แบดจ์ โดยใช้การพ่นอย่างประณีตหลายชั้น และขัดด้วยมือถึง 10 รอบ ณ Home of Rolls-Royce ในกูดวูด เวสต์ ซัสเซกซ์ ได้สะท้อนถึงกระบวนการทำสีที่พิถีพิถันที่สุดเท่าที่เคยมีมา ความลุ่มลึกและเคร่งขรึมของสีบนตัวถังของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน เปรียบดังผืนผ้าใบอันสมบูรณ์แบบ ในการรังสรรค์เส้น Coachline ที่วาดด้วยมือ โดยใช้เฉดสีที่ตัดกันบริเวณด้านข้างตัวถัง เพิ่มความโดดเด่นให้กับยนตรกรรมที่เปรียบเสมือนงานศิลปะ
ด้านหน้ารถเป็นจุดที่อัตลักษณ์แห่ง บแลค แบดจ์ ได้ตั้งอยู่อย่างสง่างาม คือ สัญลักษณ์สปิริท ออฟ เอกสตาซี ซึ่งครั้งนี้ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมรมดำเคลือบผิวไฮกลอสส์ และนับเป็นครั้งแรกที่ฐานของนางฟ้าก็ถูกแต่งด้วยวัสดุเดียวกัน ทำให้เกิดเป็น บแลค แบดจ์ ที่เคร่งขรึมที่สุด
การแปลงโฉมในรูปแบบนี้ ได้ถูกถ่ายทอดไปยังสัญลักษณ์อื่นๆ ของ บแลค แบดจ์ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ "RR" บริเวณส่วนหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายเส้นสีเงินบนพื้นดำ ขณะที่พื้นผิวโครเมียม เช่นกรอบกระจังหน้า กรอบหน้าต่าง มือจับเปิดประตูหลังรถ บริเวณเหนือประตูหลังรถ กรอบช่องดักอากาศด้านล่าง และท่อไอเสียถูกพ่นด้วยสีเข้ม ส่วนกระจังหน้ารถแม้จะเป็นสีดำ แต่ยังคงความเงางาม ทำให้เด่นชัดขึ้นด้วยกรอบสีดำโดยรอบ เพื่อเพิ่มความเด่นชัดของการเคลื่อนไหว ที่บ่งบอกเป็นนัยถึงเจตคติอันทรงพลัง
ผลลัพธ์โดยรวมของการออกแบบ ช่วยเสริมให้ดีไซจ์นภายนอกดูโดดเด่น เน้นสัดส่วนที่ดูโอ่อ่า ภูมิฐาน และภาพลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยวมั่นใจ สิ่งนี้ยังถูกเสริมด้วยล้อแมกลายใหม่ขอบ 22 นิ้ว อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ บแลค แบดจ์ รูปลักษณ์ที่คล้ายเฟืองสะท้อนพละกำลังมหาศาล ผสานสัญลักษณ์อินฟินิทีที่ไร้จุดสิ้นสุด
สีดำเงา และการออกแบบที่ประณีต ช่วยขับคาลิเพอร์เบรคสีแดงให้โดดเด่น ซึ่งสีแดงแบบพิเศษนี้สามารถทนความร้อนได้มากขึ้น ขณะที่ยังคงพื้นผิวสัมผัสที่ราบเรียบอย่างไร้ที่ติ อันคู่ควรแก่ บแรนด์ โรลล์ส-รอยศ์
ห้องโดยสารของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน: ที่สุดแห่งความสะดวกสบายที่มาพร้อมดีไซจ์นอันห้าวหาญ
โดยปกติแล้ว ความมุ่งมั่น และความพยายามได้ถูกทุ่มเทลงไปในการออกแบบ เพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัสถึงความสะดวกสบาย และแทบไม่รู้สึกถึงการทำงานของเครื่องยนต์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทีม Colour and Trim ของบแรนด์ได้บรรจงคัดสรรองค์ประกอบทางวิศวกรรมของ บแลค แบดจ์ มานำเสนอ โดยผสมผสานความสะดวกสบายขั้นสูงสุด สุนทรียภาพ วัสดุที่ล้ำสมัย เข้ากับงานฝีมืออันวิจิตรและบรรจง
แนวคิดนี้ถูกนำมาปรับใช้อย่างลงตัวกับแผงวีเนียร์เทคนิคอล คาร์บอนของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ซึ่งอิงตามปรัชญาของเซอร์เฮนรี รอยศ์ เมื่อครั้งก่อตั้งบแรนด์ที่ว่า "หากสิ่งไหนไม่มีอยู่ จงออกแบบมันขึ้นมา" ความร่วมมือระหว่างทีมนักออกแบบ วิศวกร และช่างฝีมือของบแรนด์ ก่อให้เกิดชิ้นงานลักชัวรีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงบันดาลใจจากผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พื้นผิวจากการถักทอคาร์บอน ไฟเบอร์ ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างลายแพทเทิร์นรูปทรงเรขาคณิต ก่อให้เกิดพื้นผิวสามมิติอันทรงพลัง
เทคนิคอล คาร์บอนแต่ละชิ้น เคลือบแลคเกอร์ 6 ชั้น ก่อนจะถูกพักไว้เป็นเวลา 72 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำมาขัดเงาด้วยมือจนเกิดผิวสัมผัสราวกับกระจก อันเป็นดังสัญลักษณ์ แสดงคุณภาพของ โรลล์ส-รอยศ์ กระบวนการทั้งหมดนี้ใช้ระยะเวลา 21 วัน และผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยเหล่าช่างฝีมือ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความมันเงาที่สม่ำเสมอและทั่วถึงในแต่ละชิ้นงานจากทั้งหมด 23 ชิ้น
เพดาน Starlight Headliner ลายเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของ โรลล์ส-รอยศ์ เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์สปิริท ออฟ เอกสตาซี, กระจังหน้าแบบ Pantheon และโมโนแกรม "RR" การตกแต่งเพดานด้วยเทคนิคดังกล่าวใน บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยแสงเรืองรองที่ส่องลงบนเบาะหนังสุดหรู เพดานที่ผลิตด้วยวัสดุหนังสีดำคุณภาพสูง และประกอบด้วยแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออฟติคถักทอด้วยมือจำนวน 1,344 จุด เป็นเสมือนภาพสะท้อนของท้องฟ้ายามราตรี และยังมีลูกเล่นดาวตกสีขาวจำนวน 8 ดวง ที่พุ่งผ่านเพดานหลากทิศทาง รวมถึงบริเวณเพดานเหนือที่นั่งด้านหน้า สะท้อนถึงเสน่ห์ของยนตรกรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้ขับได้เป็นอย่างดี
เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษของบแรนด์ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน มอบตัวเลือกสีสันสำหรับการตกแต่งภายใน ที่สามารถปรับแต่งได้แทบไร้ขีดจำกัด ลูกค้าของยนตรกรรม บแลค แบดจ์ มักใช้พื้นที่ภายในรถยนต์เพื่อสรรค์สร้างโทนสีอันแตกต่าง ดังนั้น สำหรับคัลลิแนน ทีมนักออกแบบทีมของ โรลล์ส-รอยศ์ ได้สร้างสีสันสุดโดดเด่นสำหรับวัสดุหนังขึ้นใหม่ ในชื่อสีฟอร์จ เยลโล (Forge Yellow) เพิ่มเข้าไปในคอลเลคชันสั่งผลิตพิเศษของบแรนด์ และเช่นเดียวกับสีของวัสดุหนังทุกสี สีฟอร์จ เยลโล (Forge Yellow) สามารถนำไปใช้กับที่นั่งชมวิว (Viewing Suite) หรือเสริมการออกแบบ Bespoke ของ Recreation Module ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
องค์ประกอบสุดท้ายที่เติมเต็มห้องโดยสาร ได้แก่ สัญลักษณ์อินฟินิที ที่ถูกปักลงบนที่พักแขนแบบพับได้บริเวณเบาะหลัง ราวกับเป็นตัวแทนของขุมพลังที่ซ่อนอยู่ภายใน สัญลักษณ์อันเรียบง่ายแต่แข็งแกร่งนี้ ยังได้ถูกใช้สลักบนแผ่นโลหะเรืองแสง และบนกรอบโลหะสีเข้มของนาฬิกา ซึ่งปลายเข็มนาฬิกาสีแดงและหน้าปัดอุปกรณ์ เป็นสิ่งสะท้อนถึงพลังอันน่าเกรงขาม
วิศวกรรมแห่ง บแลค แบดจ์ คัลลิแนน: อีกด้านที่ลุ่มลึกของสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา
บแลค แบดจ์ เป็นมากกว่าการแสดงออกถึงสุนทรียะ ในขั้นตอนการผลิตและรังสรรค์ยนตรกรรม บแลค แบดจ์ นั้น สิ่งสำคัญสำหรับ โรลล์ส-รอยศ์ คือ การที่ถ่ายทอดคาแรคเตอร์อันทรงพลังที่ผ่านการคิดพิจารณามาอย่างดี เพื่อให้เข้ากันได้อย่างลงตัว กับรูปลักษณ์และตัวตนอันโดดเด่นของยานยนต์คันนี้ การได้รับความคาดหวังที่สูงจากลูกค้า ทำให้บแรนด์ได้สร้างมาตรฐานการทดสอบสมรรถนะ และคุณภาพของรถอย่างเข้มข้น ใช้เวลานานกว่า 3 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่า บแลค แบดจ์ คัลลิแนน จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์
กุญแจสำคัญของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ได้แก่สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) สถาปัตยกรรมโครงสร้างอลูมิเนียมอันเป็นกรรมสิทธิ์ของ โรลล์ส-รอยศ์ ที่เปิดตัวพร้อมยนตรกรรม นิวแฟนทอม โครงรถอลูมิเนียม ไม่เพียงแค่มอบความแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อให้กับตัวถัง แต่ความยืดหยุ่นของมัน ทำให้ คัลลิแนน สามารถรองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อถาวร และเลี้ยว 4 ล้อได้ในรุ่นปกติ ซึ่งองค์ประกอบอันเปี่ยมประสิทธิภาพเหล่านี้ ได้ถูกปรับและรังสรรค์ขึ้นใหม่สำหรับ บแลค แบดจ์ ขณะที่ยังรักษาคุณภาพในการขับที่ไร้เทียมทาน
สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหราได้ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับข้อจำกัดในแง่ของขนาด และน้ำหนัก ของระบบขับเคลื่อนที่หลากหลาย เมื่อผู้ขับกดปุ่ม "Low" บนเกียร์ ก็จะสามารถสัมผัสเทคโนโลยีของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ได้อย่างเต็มรูปแบบ จากการเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องยนต์ทวิน เทอร์โบ วี 12 สูบ 6.75 ลิตร ผ่านระบบไอเสียแบบใหม่ ที่ป่าวประกาศการมาถึงของ บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ด้วยเสียงทุ้มต่ำอันทรงพลัง
ความยืดหยุ่นของเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ วี 12 สูบ ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการเพิ่มขุมพลังขึ้นอีก 29PS รวมเป็นความแรงถึง 600PS หรือ 592 แรงม้า สัมผัสของเกียร์เดียว ยังได้ถูกเสริมด้วยการเพิ่มแรงบิดขึ้น 50NM ทำให้รวมแรงบิดเป็น 900NM
บแลค แบดจ์ คัลลิแนน ยังได้อิทธิพลจากการปรับแต่งระบบส่งกำลังและลิ้นเร่งแบบ Bespoke ที่พุ่งทะยานอย่างทรงพลัง โดยยังคงประสบการณ์การขับแบบพรมวิเศษ ดังเช่นยนตรกรรม โรลล์ส-รอยศ์ รุ่นอื่นๆ ระบบขับเคลื่อน กล่องเกียร์ ZF 8 จังหวะ และเพลาทั้งหน้าหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อปรับระดับการทำงานตามองศาของลิ้นเร่งและพวงมาลัย การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าและองค์ประกอบของระบบกันสั่นสะเทือน เป็นเทคโนโลยีเพิ่มเติม ซึ่งช่วยรักษาความสมดุลให้เหมาะสมระหว่างแรงขับเคลื่อนและความนุ่มนวล ผลลัพธ์ที่ออกมา คือ ยนตรกรรมสุขุมลุ่มลึกเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ ที่พร้อมกลายร่างเป็นยนตรกรรมอันโดดเด่นทรงพลังทันทีที่ต้องการ
เพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจให้ผู้ขับ ระยะแป้นเหยียบถูกปรับให้กระชับขึ้น พร้อมจานเบรคที่ออกแบบให้ทนความร้อนได้สูงเป็นพิเศษ
บแลค แบดจ์ คัลลิแนน เปิดให้จองแล้ววันนี้