ทดลองขับ(formula)
PEUGEOT 3008 และ 5008 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีคู่ใจนักเดินทาง
เปอโฌต์ ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ เปอโฌต์ (Peugeot) อย่างเป็นทางการ ทำตลาดด้วยครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี 2 รุ่น คือ 3008 เอสยูวี 5 ที่นั่ง และ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมดีไซจ์นโดดเด่น เน้นคุณภาพการประกอบ อุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ที่หรูหราทันสมัย และบริการหลังการขายแบบครบวงจร
สำหรับ เปอโฌต์ 3008 เอสยูวี กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก New Car of the Year โดย Auto Trader New Car Awards, ดีไซจ์นภายนอกและห้องโดยสารยอดเยี่ยม 2017 (Red Dot Product Design Award), บแรนด์ที่เชื่อถือได้มากสุดในปี 2019 Most Dependable Volume Brand โดย J.D. Power UK Vehicle Dependability Study และรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี International Engine of the Year 4 ปีซ้อน (2015 - 2018)
หลังจากเปิดตัว เปอโฌต์ ประเทศไทย ไปได้ไม่นาน ก็ถึงเวลาที่เราจะได้มีโอกาสทดลองขับครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีทั้ง 2 รุ่น คือ 3008 และ 5008 โดยใช้หนึ่งในเส้นทางยอดนิยมของนักเดินทาง เพื่อพักผ่อนในวันหยุด คือ กรุงเทพฯ-เขาใหญ่
ภายนอกสไตล์ยุโรป ตัวถังหนักแน่น ทั้ง 3008 และ 5008 ด้านหน้าออกแบบคล้ายสิงห์โต กันชน และไฟหน้าแอลอีดีลักษณะคล้ายเขี้ยว ซุ้มล้อหน้า/หลังเติมเส้นเน้นมัดกล้าม ส่วนท้ายแตกต่างกัน 3008 ที่เป็นเอสยูวีแบบ 5 ที่นั่ง เส้นแนวกระจกหลังเสา C ยกขึ้นรับกับฝาท้ายที่ลาดลงมา ขณะที่ 5008 ที่เป็นเอสยูวีแบบเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง หลังคายาวกว่า 3008 ชัดเจน และฝาท้ายแทบตัดตรงลงมาถึงแนวกันชนหลัง แม้ว่าทั้ง 2 รุ่นมีลักษณะของท้ายไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่คล้ายกันก็คือ ไฟท้ายแบบ 3 แถบ คล้ายกับกรงเล็บสิงโต (Lion Claws)
ภายในห้องโดยสารของ 3008 และ 5008 นักออกแบบ เปอโฌต์ ผสมผสานความสะดวกสบายที่มีอยู่ในรถเอมพีวี เช่น คอนโซลหน้าที่ยกสูง และแบ่งส่วน และห้องโดยสารแบบ i-Cockpit ผสานเทคโนโลยีดิจิทอลเต็มรูปแบบ
ด้านบนติดตั้งมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว และจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว ในระดับสายตา ทำให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน โดยไม่ต้องละสายตาจากถนนในขณะขับขี่ รวมทั้งช่องแอร์ด้านหน้า ช่วยให้สามารถปรับลดอุณหภูมิลงมาได้รวดเร็ว
ด้านล่างประกอบด้วย พวงมาลัย ที่มีขนาดเล็กแบบ 2 ก้าน และตัดตรงส่วนบนและล่าง ช่วยให้ไม่ไปบังมาตรวัด และเพิ่มพื้นที่ว่างเหนือช่วงขา นอกจากช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่แล้ว ย้งช่วยให้ผู้ขับเข้า/ออกจากรถได้สะดวกแล้ว ดูสปอร์ทและลงตัวกับแพดเดิล ชิฟท์ที่คอพวงมาลัย สวิทช์ควบคุมทรงคีย์เพียโน (Piano Key Toggle Switches) ทำหน้าที่เหมือนกับก้านสวิทช์ใน มีนี (Mini) ออกแบบรับกับแนวขอบใต้คอนโซล ซึ่งลากโยงไปถึงแนวคอนโซลเกียร์ และเกียร์แบบคันโยก Electric Impulse
เครื่องเสียงและจอแสดงผลยังรองรับการใช้งาน Apply CarPlay และ Mirror Link ระบบเปิด/ปิดและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Keyless & Smart Key entry plus Push Start Buttom ในรุ่น Allure เพิ่มเติมซันรูฟขนาดใหญ่ หรือ Panoramic Sunroof และฝากระโปรงท้ายเปิด/ปิดอัตโนมัติ และระบบแฮนด์ฟรี
เบาะนั่งหุ้มหนังแท้สีดำเดินเส้นด้ายเพิ่มลวดลายความหรูหรา เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านผู้ขับ 6 ทิศทางด้านผู้โดยสาร เบาะนั่งแถวที่ 2 ในรุ่น 3008 สามารถพับเก็บได้จากสวิทช์ในห้องเก็บสัมภาระด้านหลังแยกซ้าย/ขวา ส่วนในรุ่น 5008 ไม่มี แต่สามารถปรับเอน และเลื่อนมาด้านหน้าได้ เพื่อการเข้า/ออกเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งเบาะนั่งแถวที่ 3 นี้ นอกจากแยกพับซ้าย/ขวาได้ ยังสามารถถอดยกออกได้อีกด้วย
พวงมาลัยขนาดกะทัดรัด ขนาดเล็กกว่ารถเอสยูวีทั่วไป ช่วยให้สายตาของผู้ขับอยู่ในระดับเดียวกับมาตรวัดอเนกประสงค์ (Head-up Digital Cluster) ขนาด 12.3 นิ้ว ถึงแม้ว่าพวงมาลัยจะมีขนาดเล็กกว่าเราคุ้นเคย แต่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำและฉับไว และมีระยะห่างจากขา นอกจากช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่แล้ว ย้งช่วยให้ผู้ขับเข้า/ออกจากรถได้สะดวก พร้อมติดตั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชันอัตโนมัติ (Hill Descent Control) โดยผู้ขับแค่บังคับพวงมาลัยเท่านั้น
ชุดสวิทช์แบบคีย์เพียโน (Piano Key Toggle Switches) ช่วยให้การควบคุมระบบต่างๆ อาทิ ระบบปรับอากาศ หรือระบบอินโฟเทนเมนท์ กลายเป็นเรื่องง่าย
เบาะหน้า/หลังผ่านการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการขับขี่ พร้อมด้วยพาโนรามิคซันรูฟกว้างพิเศษ ครอบคลุมพื้นที่ยาวถึงเบาะหลัง ผู้โดยสารจึงสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงาม หรือสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด
3008 และ 5008 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซินทวินสกรอลล์เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิด 24.5 กก.-ม. หรือ 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 รตน. สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ให้อัตราเร่งดีและประหยัดน้ำมัน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse ผสานการส่งกำลังอย่างนุ่มนวลและฉับไว
สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แม้ 3008 และ 5008 จะเป็นรถขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า แต่ เปอโฌต์ ก็ติดตั้งระบบควบคุมการขับเคลื่อน (Advanced Grip Control) ทำหน้าที่กระจายแรงบิด และเบรคแต่ละล้ออัตโนมัติ เพื่อการยึดเกาะถนน 5 โหมด ตามลักษณะเส้นทาง โหมด Normal สำหรับการใช้งานในชีวิตประจําวัน สภาพเส้นทางเรียบ โหมด ESP Off ปิดระบบช่วยรักษาเสถียรภาพทรงตัว โหมด Sand ปล่อยให้ล้อหมุนฟรีได้เล็กน้อย เพื่อขับเคลื่อนบนพื้นกรวด หรือทราย โหมด Mud ลดแรงบิดล้อที่หมุนฟรี เพื่อให้ผ่านหลุมโคลน โหมด Snow กระจายแรงบิดอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนบนพื้นลื่น หรือหิมะ ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมรถได้ง่ายแม้ในทางดิน ทางทราย และบนถนนลื่น
ระบบความปลอดภัยที่มีมาให้ นอกเหนือจาก ระบบป้องกันล้อลอค (ABS) พโรแกรมควบคุมการทรงตัว (ESP) กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอย เซนเซอร์อุลทราโซนิคช่วยกะระยะด้านหลัง พร้อมติดตั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชันอัตโนมัติ (Hill Descent Control) แล้ว ในรุ่น Allure ยังติดต้ั้ง ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน และระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัจฉริยะ รวมทั้งเซนเซอร์อุลทราโซนิคช่วยกะระยะด้านหน้า ในรถยนต์ เปอโฌต์ ทั้ง 2 รุ่น เมื่อเปรียบเทียบกับราคา 3008 ที่เริ่มต้น 1.549 ล้านบาท และ 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้นที่ 1.749 ล้านบาท และจ่ายเพิ่มอีก 1.5 แสนบาท ในรุ่นทอพ Allure ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. และแพคเกจบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วประเทศ 3 ปีเต็ม ก็ดูจะมีเหตุผล ให้ต้องคิดและตัดสินใจ
สัมผัส และทดลองขับรถทั้ง 2 รุ่น ได้ที่โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ เปอโฌต์ หรือจะดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เวบไซท์ www.peugeot.co.th และเฟศบุค Peugeot Thailand
เรื่องโดย : Thanasan Saowamol thanasan@imc.co.th
ภาพโดย : Peugeot
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/301036