กลุ่มบริษัทไทยแสง จันทบุรี โลจิสติกส์ มั่นใจใช้ โวลโว ทรัคส์ รับขนส่งผลไม้ไทย-จีน โตก้าวกระโดด

บริษัท เจียงไห่ คุนหมั้น อินเตอร์เฟรท ทรานสปอร์ต จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท ไทยแสง จันทบุรี โลจิสติกส์  ซึ่งเป็นผู้ให้บริการงานโลจิสติคส์ชั้นนำ เดินหน้าสั่งซื้อรถ โวลโว ทรัคส์ ลอทใหญ่เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กรที่ได้รับอานิสงส์จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนกับประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้คำสั่งซื้อสินค้าทางการเกษตรจากประเทศไทยไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว   สมหวัง กันยาปรีดากุล กรรมการผู้จัดการ บ. เจียงไห่คุนหมั้นฯ เปิดเผยว่าจากการลงทุนสั่งซื้อรถบรรทุกเพิ่มดังกล่าวเป็นการยืนยันความเชื่อมั่นในธุรกิจขนส่งสินค้าการเกษตรระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทยของบริษัท ซึ่งปีที่แล้ว ธุรกิจการขนส่งของบริษัทพุ่งสูงถึง 200 % และคาดว่าปีนี้ธุรกิจจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 100 %   นอกจากนี้ สมหวัง ยังกล่าวเพิ่มว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศจีนกับประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้รัฐบาลจีนมีนโยบายลดการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรบางชนิดจากประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จึงทำให้ความต้องการสินค้าทางการเกษตรจากประเทศไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้นในประเทศจีน “จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ธุรกิจของเราในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วและยังจะเติบโตต่อเนื่องในปีนี้และในอนาคต” สมหวัง กล่าว   บริษัทไทยแสงจันทบุรี โลจิสติกส์ ก่อตั้งเมื่อ 2556 โดยดำเนินกิจการขนส่งสินค้าทางการเกษตรระหว่างประเทศไทยกับประเทศจีน โดยสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน คือ ผลไม้สด เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ขนุน กล้วยไข่ และมะพร้าว เป็นต้น โดยสินค้าเหล่านี้มีแหล่งผลิตกระจายไปทั่วประเทศไทย ขณะที่พืชผลทางการเกษตรที่ส่งจากประเทศจีนมายังประเทศไทยคือผักและผลไม้สด อาทิ ส้ม องุ่น ลูกพลับ แอพเพิลและผักทุกชนิด โดยมีการขนส่งไป-กลับทุกวัน ไม่ต่ำกว่าวันละ 20-30 ตู้คอนเทนเนอร์   สมหวังกล่าวว่า จากความต้องการพืชผลทางการเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นจากทั้ง 2 ประเทศ ทำให้ความต้องการใช้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ บ. เจียงไห่คุนหมั้นฯ จึงตัดสินใจสั่งซื้อรถ โวลโว ทรัคส์ เพิ่มอีก 41 คัน โดยครั้งนี้ทางบริษัทได้ทำการสั่งซื้อ 2 รุ่นได้แก่ Volvo FH13 400 แรงม้า และ Volvo FM13 400 แรงม้า ซึ่งปัจจุบันบริษัทของเรามีจำนวนรถบรรทุก รวมเป็น 175 คัน   “เราตัดสินใจสั่งซื้อรถ โวลโว ทรัคส์ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกเพราะเราได้ศึกษาเทคโนโลยีของรถ โวลโว ทรัคส์ มาระยะหนึ่งแล้ว จนเรามั่นใจว่ารถ โวลโว ทรัคส์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเราที่ต้องการใช้รถเพื่อการขนส่งระยะไกล ด้วยต้นทุนการบริหารจัดการที่ต่ำ สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ซึ่งราคางานบริการที่เราเสนอกับลูกค้า เราอยู่ในระดับแนวหน้าที่ลูกค้ายอมรับได้” สมหวัง กล่าว   สมหวังกล่าวว่า เส้นทางขนส่งสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน เป็นเส้นทางประจำโดยผ่านด่านศุลกากรเชียงของ จังหวัดเชียงราย ข้ามไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่ด้านห้วยทราย จากนั้นก็จะใช้เส้นทาง R3A มุ่งสู่ชายแดนจีนที่ด่านบ่อเต็นและทำการขนถ่ายสินค้าใส่รถบรรทุกจีน   “ผมมั่นใจว่าคุณภาพของรถ โวลโว ทรัคส์ สามารถรองรับกับการใช้งานที่หนัก และขนส่งระยะทางไกลจากประเทศไทยไปยังชายแดนประเทศจีนนั้น สามารถวิ่งงานได้อย่างต่อเนื่อง” สมหวัง กล่าว   สมหวัง กล่าวว่าบริษัท มีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจขนส่งจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหากเมื่อโครงการยุทธศาสตร์พัฒนาภายใต้ชื่อ “One Belt One Road” ที่รัฐบาลจีนผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อขยายเส้นทางการค้า การคมนาคมขนส่งข้ามแดน โดยประเทศไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาดังกล่าว ซึ่งหากการพัฒนาสำเร็จ จะทำให้เส้นทางขนส่งไปยังประเทศจีน และประเทศอื่นๆ สามารถทำได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นจากระบบถนนที่ได้มาตรฐานสากลในทุกประเทศที่เข้าร่วม   “สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะย้ำก็คือ บริษัทฯ มีความภูมิใจอย่างมากที่เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรชาวไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากราคาพืชผลที่เราส่งไปยังประเทศจีน ขณะเดียวกัน เราก็มีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยมีผัก และผลไม้ที่สดจากประเทศจีนมาขายในประเทศไทยในราคาที่ไม่แพง” สมหวัง กล่าว