หลังการเปิดตัว BMW M8 Coupe และ Convertible (เปิดประทุน) เพียง 4 เดือน ทาง BMW ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว M8 Gran Coupe หรือรุ่นตัวถัง 4 ประตูของ M8 ตามออกมา ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออกเบาะหลังมากขึ้น โดยที่ความแรงยังคงเดิม
ภายนอกของ M8 Gran Coupe ที่ด้านหน้ามีความโฉบเฉี่ยวสวยงามไม่ต่างจากรุ่นคูเป และรุ่นเปิดประทุน กระจังหน้าไตคู่สีดำ และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ กระจกมองข้างที่มีรูปทรงที่ช่วยเรื่องแอโรไดนามิค หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรง และล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว ส่วนด้านหลังของรถให้ความสปอร์ท กันชนหลังที่ดุดัน สปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้าย ท่อไอเสียปลาย 4 ท่อ และยังมีชุดแต่ง M Carbon Exterior Package สำหรับภายนอกรถมาให้เลือกติดเพิ่ม ซึ่งประกอบด้วย กระจกมองข้าง, Diffuser หลัง รวมทั้งส่วนของช่องดักอากาศด้านหน้าเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ดูเข้ากับกระจังหน้าสีดำมากขึ้น
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมการแต่งในสไตล์ M ซึ่งประกอบด้วยเบาะ M Sport, พวงมาลัยหนัง M และคันเกียร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยมีหน้าปัดดิจิทอล 12.3 นิ้ว สำหรับแสดงข้อมูลแก่ผู้ขับ ขณะที่จอระบบ Infotainment มีขนาด 10.25 นิ้ว
M8 Gran Coupe มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4.4 ลิตร V8 TwinPower Turbo ให้พละกำลัง 600 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 76.5 กก.ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Steptronic สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาทีเท่านั้น
ส่วนใครที่อยากจะได้ตัวที่แรงขึ้นไปอีกก็จะมีรุ่น M8 Gran Coupe Competition ให้เลือก โดยจะเพิ่มความแรงขึ้นเป็น 625 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 76.5 กก.ม. ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ลดลงเหลือ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดทุกรุ่นจะจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่ถูกลอคไว้ แต่สามารถเพิ่มเป็น 305 กม./ชม. เมื่อเลือกจ่ายเงินเพิ่มซิ้อ M Driver’s Package อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 9.65 กม./ลิตร
M8 Gran Coupe มาพร้อมความพิเศษของเกียร์อัตโนมัติของ M ก็คือ ระบบส่งกำลังที่มีชื่อว่า M DCT Drive Logic ซึ่งสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ต่อเนื่องและรวดเร็วในระดับเสี้ยววินาที
การส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive ที่เน้นการขับเคลื่อนที่ล้อหลัง พร้อมกับมีระบบ Active M Differential (ภายในชุดเฟืองท้าย) ที่ล้อหลังโดยจะกระจายพละกำลัง และแรงบิดไปแต่ละด้าน ทำหน้าที่ควบคุมความเร็วในการหมุนของล้อแต่ละด้านให้ใกล้เคียงกัน และเหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ ผลที่ได้ คือ แรงยึดเกาะ และเสถียรภาพการขับขี่สูงสุด
โดยรถมี 3 โหมดขับเคลื่อนให้เลือก คือ 4WD ซึ่งเป็นโหมดขับเคลื่อนมาตรฐานของรถ โหมด 4WD Sport ซึ่งเน้นการใช้ล้อหลังมากขึ้น และโหมด 2WD ซึ่งขับเคลื่อนโดยใช้เฉพาะล้อหลังพร้อมกับปิดการทำงาน DSC ได้
ช่วงล่างด้านหน้าดับเบิลวิชโบน โดยมีการออกแบบใหม่ เช่นเดียวกับช่วงล่างด้านหลัง 5-ลิงค์ ที่มีคานเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นตามสเปค M และติดตั้งเหล็กกันโคลงที่ BMW เคลมว่า ทั้งเหนียวแน่น และแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังใช้ช่วงล่าง Adaptive M-Specific รวมไปถึงระบบเบรคประสิทธิภาพสูง โดยมีเบรคคาร์บอนเซรามิคเป็นออพชันเสริม
ทาง BMW จะเริ่มขาย M8 Gran Coupe ในเดือนเมษายน ปีหน้า โดยจะมีรุ่น First Edition ที่ผลิตจำกัด 400 คัน ซึ่งตัวรถจะมีสีเขียวเมทัลลิค Aurora Diamond Green โดยใช้หนัง Taruma Brown Merino ภายในห้องโดยสาร ในสหรัฐอเมริกาจะมีราคาเริ่มต้นที่ 130,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,942,000 บาท) ส่วน Competition ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 13,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 394,200 บาท)