ผู้ผลิตรถหรูจากประเทศอังกฤษ Bentley เปิดตัวรถ Luxury Grand Touring Sedan รุ่น Flying Spur เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งครบรอบ 100 ปีพอดี โดยมุ่งเป้าไปที่ความหรูหรา และความพิถีพิถัน
ไม่ต้องบอกเลยว่าสไตล์การออกแบบนั้นมาจาก Continental GT และปรับให้เข้ากับรูปแบบ Sedan 4 ประตู โดยออกแบบประตูด้านหลังให้ยาวขึ้น ทำให้สามารถเข้า-ออกห้องโดยสารที่หรูหราได้อย่างง่ายดาย New Flying Spur มีความยาว 5,304 มม. มากกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย และฐานล้อยาว 3,195 มม. ขยายมากกว่ารุ่นก่อน 130 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาด้านหลัง มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED Matrix และล้อขนาด 21 นิ้ว ในขณะที่ Mulliner ได้เตรียมชุดแต่งล้อขนาด 22 นิ้ว ให้เลือกเพื่อความสปอร์ท ซันรูฟกระจกแบบพาโนรามาขนาดใหญ่
เบาะที่นั่งห้องโดยสารมีสีให้เลือกถึง 15 สี การพัฒนาวัสดุใหม่โดยทีมช่างฝีมือของ Bently เป็นครั้งแรกที่นำเอาหนังที่มีพื้นผิว 3 มิติ ทรง Diamond มาใช้ในรถยนต์ หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่หมุนได้ซ่อนอยู่หลังแดชบอร์ด แผงหน้าปัดที่หมุนได้จะแสดงหน้าปัดแอนาลอก 3 หน้าปัด ที่บอกถึงเวลา เข็มทิศและอุณหภูมิภายนอก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความคลาสสิค อันเป็นเอกลัษณ์ของ Bently ระบบเสียง 10 ลำโพง มาตรฐานสามารถอัพเกรดเป็นลำโพง 16 ตัว, กำลังไฟ 1,500 วัตต์, Bang & Olufsen หรือลำโพง 19 ลำโพง, ระบบ Naim 2,200 วัตต์พร้อมเครื่องแปลงความถี่เสียงเบสที่ติดตั้งในที่นั่งด้านหน้า
หัวใจสำคัญของ Flying Spur ใหม่ คือ เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ขนาด 6.0 ลิตร W12 ที่ให้กำลัง 626 แรงม้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แม้ว่ารถจะมีน้ำหนักถึง 2,435 กก. แต่ก็ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 333 กม./ชม. และอาจมีเครื่องยนต์ PHEV ตามมาอีกไม่นาน
เป็นครั้งแรกที่ทาง Bentley นำเอาระบบควบคุมการบังคับเลี้ยวทุกล้อมาใช้กับรถ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แก่รถมากขึ้น ยามใช้ความเร็วและในเมือง โดยเมื่อใช้ความเร็วสูง ระบบไฟฟ้าจะควบคุมล้อหลังให้เลี้ยวในทิศทางเดียวกับล้อหน้า ทำให้สามารถทำความเร็วสามารถเปลี่ยนเลนได้อย่างมั่นใจ เช่นเดียวกับใช้ความเร็วต่ำ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูงสุดขณะเดินทาง แต่เป็นครั้งแรกของ Bentley ที่ระบบขับเคลื่อนจะส่งกำลังไปเฉพาะล้อหลังในสภาพถนนปกติ แต่เมื่อระบบตรวจพบการลื่นไถล ระบบขับเคลื่อนก็จะส่งกำลังไปยังล้อหน้าทันที เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ
Flying Spur ได้รับการเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ให้มีความหนึบขึ้น เพื่อต้านแรงในขณะเข้าโค้งและลดการโคลงของตัวรถให้เหลือน้อยที่สุด Bentley Dynamic Drive จะช่วยเพิ่มทั้งในด้านการควบคุมรถและให้ความสบายขณะเดินทางที่ดีขึ้น โดยการเพิ่มปริมาณของลมขึ้น 60% ในช่วงล่างแบบ Air Suspension เบรคหน้าขนาด 420 มม. มีขนาดใหญ่กว่า Flying Spur ตัวเก่าเพราะต้องรองรับน้ำหนักที่มากขึ้นจากเครื่องยนต์ W12