 มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “โตโยตา มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สำหรับอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง “Toyota Environment Challenge 2050” โดยมีพันธกิจในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์จากการขับขี่ ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฮบริด ให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการขยายการรองรับการใช้งานรถยนต์ไฮบริดในอนาคต โตโยตา จึงได้ก่อตั้ง สายการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริด ขึ้นที่โรงงานประกอบรถยนต์ โตโยตา เกทเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็นโรงงาน โตโยตา ที่ประกอบแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริดแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
สายการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริด ณ โรงงานประกอบรถยนต์ โตโยตา เกทเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตแบทเตอรีไฮบริดสำหรับใช้ในรถยนต์รุ่น C-HR, Camry Hybrid และรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นๆ ของ โตโยตา ในอนาคตทั้งภายในและต่างประเทศ โดยในสายการผลิตได้มีการติดตั้งเทคโนโลยีจักรกลระดับสูง อาทิ Cobot (Collaborative Robots) แขนกลหุ่นยนต์ที่ล้ำสมัย และสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อใช้ในการผลิต และควบคุมคุณภาพตลอดกระบวนการ พร้อมทั้งได้นำองค์ความรู้ และประสบการณ์ด้านการผลิตแบทเตอรีไฮบริดจาก โตโยตา ที่ประเทศญี่ปุ่นมาปรับใช้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันในระดับสากล สำหรับชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบแบทเตอรีไฮบริดนั้น จะเป็นการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการใช้ชิ้นส่วนที่สั่งจากผู้ผลิตภายในประเทศ โดยทาง โตโยตา ได้มีบทบาทในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนการควบคุมคุณภาพการผลิตชิ้นส่วนผู้ผลิตภายในประเทศเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานของ โตโยตา
นอกจากนี้ สายการผลิตแบทเตอรีไฮบริดที่โรงงานเกทเวย์ยังดำเนินงานด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนที่ได้มาจากโซลาร์เซลล์ โดยนำพลังงานที่ได้มาเก็บในแหล่งเก็บพลังงานสำรอง ที่ผลิตขึ้นจากเซลล์แบทเตอรีของรถยนต์ไฮบริดที่ใช้แล้ว รวมถึงมีการใช้กลไกพื้นฐานแบบอัตโนมัติ “Karakuri” เพื่อลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตอีกด้วย
มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าวปิดท้ายว่า “นอกเหนือจากการเปิดสายการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทยของ โตโยตา ในครั้งนี้ โตโยตา ยังมีแผนงานในอนาคตเกี่ยวกับการบริหารจัดการแบทเตอรีไฮบริดที่ใช้แล้ว ให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ “การจัดการแบทเตอรีไฮบริดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (3R Scheme)” ในรูปแบบของการ Rebuilt Reuse และ Recycle อีกด้วย นับเป็นแผนงานที่ทาง โตโยตา ได้มีการเตรียมการไว้เพื่อรองรับกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบทเตอรีไฟฟ้าที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต โดยโครงการต่างๆ ที่กล่าวมานี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการนำเข้าแบทเตอรีไฮบริด ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริดได้ง่ายยิ่งขึ้น ตามแนวทางการเพิ่มจำนวนการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนก่อให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ พร้อมทั้งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากแบทเตอรีใช้แล้ว ภายใต้แนวคิดการจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดอายุผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร”
 
มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “โตโยตา มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์สำหรับอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง “Toyota Environment Challenge 2050” โดยมีพันธกิจในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์จากการขับขี่ ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฮบริด ให้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการขยายการรองรับการใช้งานรถยนต์ไฮบริดในอนาคต โตโยตา จึงได้ก่อตั้ง สายการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริด ขึ้นที่โรงงานประกอบรถยนต์ โตโยตา เกทเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็นโรงงาน โตโยตา ที่ประกอบแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริดแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
สายการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริด ณ โรงงานประกอบรถยนต์ โตโยตา เกทเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตแบทเตอรีไฮบริดสำหรับใช้ในรถยนต์รุ่น C-HR, Camry Hybrid และรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นๆ ของ โตโยตา ในอนาคตทั้งภายในและต่างประเทศ โดยในสายการผลิตได้มีการติดตั้งเทคโนโลยีจักรกลระดับสูง อาทิ Cobot (Collaborative Robots) แขนกลหุ่นยนต์ที่ล้ำสมัย และสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อใช้ในการผลิต และควบคุมคุณภาพตลอดกระบวนการ พร้อมทั้งได้นำองค์ความรู้ และประสบการณ์ด้านการผลิตแบทเตอรีไฮบริดจาก โตโยตา ที่ประเทศญี่ปุ่นมาปรับใช้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในมาตรฐานเดียวกันในระดับสากล สำหรับชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบแบทเตอรีไฮบริดนั้น จะเป็นการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการใช้ชิ้นส่วนที่สั่งจากผู้ผลิตภายในประเทศ โดยทาง โตโยตา ได้มีบทบาทในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนการควบคุมคุณภาพการผลิตชิ้นส่วนผู้ผลิตภายในประเทศเพื่อให้ได้ตามมาตรฐานของ โตโยตา
นอกจากนี้ สายการผลิตแบทเตอรีไฮบริดที่โรงงานเกทเวย์ยังดำเนินงานด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนที่ได้มาจากโซลาร์เซลล์ โดยนำพลังงานที่ได้มาเก็บในแหล่งเก็บพลังงานสำรอง ที่ผลิตขึ้นจากเซลล์แบทเตอรีของรถยนต์ไฮบริดที่ใช้แล้ว รวมถึงมีการใช้กลไกพื้นฐานแบบอัตโนมัติ “Karakuri” เพื่อลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตอีกด้วย
มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าวปิดท้ายว่า “นอกเหนือจากการเปิดสายการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฮบริดในประเทศไทยของ โตโยตา ในครั้งนี้ โตโยตา ยังมีแผนงานในอนาคตเกี่ยวกับการบริหารจัดการแบทเตอรีไฮบริดที่ใช้แล้ว ให้นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ “การจัดการแบทเตอรีไฮบริดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (3R Scheme)” ในรูปแบบของการ Rebuilt Reuse และ Recycle อีกด้วย นับเป็นแผนงานที่ทาง โตโยตา ได้มีการเตรียมการไว้เพื่อรองรับกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากแบทเตอรีไฟฟ้าที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต โดยโครงการต่างๆ ที่กล่าวมานี้จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการนำเข้าแบทเตอรีไฮบริด ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริดได้ง่ายยิ่งขึ้น ตามแนวทางการเพิ่มจำนวนการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนก่อให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ พร้อมทั้งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากแบทเตอรีใช้แล้ว ภายใต้แนวคิดการจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดอายุผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร”                    

