การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของ Ford หนนี้ หลังจากไล่ปิดโรงงานประกอบรถยนต์นั่งไปหลายแห่ง ล่าสุด ประกาศปิดโรงงานในอเมริกาใต้ อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งผลิตรุ่น Fiesta สำหรับตลาดภายใน และรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ภายในปี 2562 นี้ Ford เตรียมปิดโรงงานใน São Bernardo do Campo Factory โรงงานเก่าแก่ในบราซิล แถบเซา เปาโล และเลิกจ้างพนักงานราว 2,700 คน รวมทั้งเลิกการผลิต Fiesta และรถบรรทุกเช่นกัน Ford ผลิตรถเพื่อการพาณิชย์สำหรับตลาดภายในประเทศ โดยผลิตรุ่น F-4000 และ F-350 ส่วนรถยนต์นั่ง จะใช้โรงงานแห่งใหม่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ที่เมือง Bahia ทำการผลิตต่อไป การปิดโรงงานแห่งนี้ คือ การปรับโครงสร้างของการบริหารงานในลาตินอเมริกา แห่งสุดท้าย เพื่อให้ลดการขาดทุนให้มากที่สุด โดยจะสามารถลดค่าใช้จ่ายค่าจ้างแรงงาน และการบริหารจัดการลงได้ราว 20 % แต่ไม่ระบุเป็นตัวเงิน ระบุเพียงว่า การปิดโรงงานในบราซิลนี้ จะทำให้ Ford ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยราว 460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 15,180 ล้านบาท นอกจากนั้น Ford ยังหยุดสายการผลิต Focus ในอาร์เจนตินา ที่เป็นแหล่งผลิตสำหรับครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี, กระบะ 4x4 โดยเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา Ford เลิกจ้างพนักงานราว 200 ตำแหน่ง หรือราว 10 % ของจำนวนพนักงาน จากศูนย์วิศวกรรมในประเทศออสเตรเลีย แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเลิกจ้างงานในยุโรป แม้ว่าจะประกาศความร่วมมือกับ Volkswagen เพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานของกระบะเดียวกัน ระหว่าง Amarok กับ Ranger ในอนาคต นอกเหนือจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันแล้ว ทั้ง 2 ฝ่าย กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาที่จะร่วมมือกันในด้านอื่นๆ ซึ่งในอนาคต Ford อาจใช้โครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้า MEB ที่ Volkswagen พัฒนาขึ้นใหม่ รวมทั้งความร่วมมือในการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ ด้วยเช่นกัน