เรื่องน่ารู้
Ford Ranger Raptor-The Mysterious Journey

ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริพพิเศษ เชิญคณะสื่อมวลชนร่วมสัมผัสดินแดนลึกลับกับธรรมชาติอันสวยงามที่แฝงตัวอยู่บนเส้นทางชายฝั่งทะเลอันดามัน กับ Ford Ranger Raptor ที่มี DNA ของ Ford Performance เป็นหัวใจหลัก ด้วยสมรรถนะสูงกระตุ้นอดรีนาลีนของการขับรถให้สูบฉีดด้วยความเร้าใจ ตลอดเส้นทางบนชายฝั่งทะเลอันดามันอันท้าทายและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ณ จังหวัดภูเก็ต-พังงา-สุราษฎร์ธานี
ทันทีที่เดินทางถึงสนามบินภูเก็ต คาราวาน Ford Ranger Raptor มุ่งหน้าไปยังเขาหน้ายักษ์ อุทยานแห่งชาติหาดท้ายเหมือง-เขาลำปี อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา จุดหมายแรกอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามเงียบสงบ หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสตลอดชายหาดยาวกว่า 13 กม. มีโขดหินขนาดใหญ่ที่ถูกทับถมสะสมมาเป็นเวลานับล้านปี ปรากฏร่องรอยลวดลายสวยงามแปลกตา ด้วยรูปร่างของภูเขามีหน้าผาคล้ายใบหน้ายักษ์ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ โดยการเดินทางมาสัมผัสความงามของเขาหน้ายักษ์ต้องใช้การขับเคลื่อน 4 ล้อ 4x4 Terrain Management System (TMS) ใน Ford Ranger Raptor โดยเลือกใช้โหมดโคลน/ทราย (Mud/Sand) พร้อมกับ 4x4 High หรือ 4x4 Low ทำให้การเดินทางเข้าไปยังจุดหมายได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
ต่อมา คณะเดินทางได้เดินทางไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม เพื่อข้ามไปยังเกาะคอเขา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน
นอกจากจะมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ทอดตัวทางทิศตะวันออก และหาดทรายขาวทางทิศตะวันตกแล้ว ยังมีร่องรอยความเจริญของวัฒนธรรมในอดีต จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดี เดิมที่นี่เป็นเส้นทางการค้าข้ามคาบสมุทรของชาวอินเดีย จีน อาหรับ และมลายู เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขายและที่จอดเรือหลบมรสุม บ่งบอกประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ที่มีมานานนับพันปี
หาดบริสุทธิ์บนแหลมปลายเกาะคอเขา หัวแหลมอ่าวนา
Ford Ranger Raptor ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ให้กำลัง 213 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เทคโนโลยีล่าสุด ให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น และการเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไวกว่าที่เคย พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Management System (TMS) ลุยทุกเส้นทางหฤโหด รวมถึงระบบกันสะเทือนที่มาพร้อมชอคอับ Fox ที่ช่วยซับแรงกระแทกในการขับขี่ทางวิบาก พโรแกรมความตื่นเต้นในวันที่ 2 ของการเดินทาง
อีกขั้นของความแกร่งตามแบบฉบับเฉพาะของ Ford Ranger Raptor โดดกันคนละหลายรอบ
ในโหมดการขับขี่ลุยสุดท้าทายในรูปแบบต่างๆ อย่างจุใจ ทั้งโหมดหญ้า/กรวดหิน (Grass/Gravel) ซึ่งออกแบบมาให้ขับขี่บนทางลุยที่เป็นกรวดและพื้นผิวลื่น โหมดหิน (Rock) พร้อมกับ 4x4 Low สำหรับการปีนป่ายหินในทางลาดชัน รวมถึงโหมดบาฮา (Baja) การขับขี่ความเร็วสูง ที่มาพร้อมชอคอับคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox เพื่อซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่เป็นกรวด หญ้า ทราย และเป็นหลุมบ่อ
ขับขี่บนเส้นทางที่เป็นกรวด หญ้า ทราย และเป็นหลุมบ่อ
โหมดโคลน/ทราย (Mud/Sand)
ในเช้าวันที่ 3 คณะสื่อมวลชนได้เดินทางไปยังท่าเรือบ้านน้ำเค็มข้ามเรือเพื่อไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งในระหว่างทางได้ไปเยี่ยมชมประติมากรรมธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูง/ต่ำไม่เท่ากัน ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อนที่มีการขุดหาแร่ดีบุก ด้วยระบบเหมืองฉีด จึงทำให้มีกองทรายอยู่จำนวนมหาศาล ต่อมาถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายเป็นพื้นที่รูปร่างแปลกตากว่า 50 ไร่ กะปง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ในดินแดนหินผาที่ดูคล้ายสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องลือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในการเดินทางสื่อมวลชนได้ใช้ระบบ Terrain Management System (TMS) โหมดการขับขี่โคลน/ทราย อีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นสื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบและสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ Ford Ranger Raptor บนเส้นทางธรรมชาติภูเขาหินปูนที่สลับซับซ้อนอันสวยงามและท้าทาย ก่อนออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เพื่อกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ


