งาน Tokyo Auto Salon 2019 เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ปีนี้ทีมงานของเราได้เข้าไปชมงาน พบว่ามีสิ่งน่าสนใจมากมาย หลายสำนักตกแต่งก็มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก บรรดาค่ายรถนำรถมาจัดแสดงบางรุ่นอาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเร็วๆ นี้ รวมถึงสไตล์การแต่งรถที่หลากหลายตามแบบฉบับญี่ปุ่น !
Tokyo Auto Salon 2019 มีผู้เข้าชมงานถึง 330,666 คน (ข้อมูลจากทางผู้จัดงาน) มากกว่าปีก่อนหน้านี้ที่ 3.6 % ถือเป็นสถิติใหม่ของงานนี้ จากการเข้าร่วมชมงานโดยทีมงานของเราในวันที่เปิดให้ประชาชนทั่วไป (วันที่ 12 ม.ค.) พบว่าผู้ชมให้ความสนใจอย่างหนาแน่นจริงๆ บริเวณฮอลล์ที่จัดแสดงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งบูธของค่ายรถอย่างเป็นทางการ และบูธของสำนักตกแต่งต่างๆ
ในส่วนของบูธจากค่ายรถอย่างเป็นทางการ เน้นรถรุ่นใหม่ที่ถูกนำมาตกแต่งให้มีความแตกต่างจากเดิม หลายค่ายเสริมทัพด้วยรถแข่งตัวเก่งในรายการต่างๆ โดยเฉพาะ Super GT งานแข่งรถประจำชาติที่มีตารางการแข่งขันอย่างต่อเนื่องที่บ้านเราเช่นกัน
Toyota
โดดเด่นบนเวทีด้วย Toyota Supra รุ่นตัวแข่งรายการ Super GT ในอนาคต (คาดว่าจะเป็นฤดูกาลปี 2020) นับเป็นการห่างหายจากรายการ Super GT หลายปี โดยก่อนหน้านี้ Supra คือ รถแข่งหลักที่ลงทำการแข่งขันรายการนี้ ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็น Soarer และใช้รถสปอร์ทจาก Lexus ในหลายปีให้หลัง ทั้งรุ่น RC และ LC การกลับมาของ Supra จะทำให้ยี่ห้อ Toyota กลับสู่การแข่งขันโดยตรงอีกครั้งในคลาสส์ GT500
นอกจากนี้ในบูธยังเน้นรถแข่งที่คว้าชัยชนะจากการแข่งขันระดับโลกในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น ตัวแข่งรายการ World Endurance Championship 2018 และรายการ World Rally Championship 2018 ที่ค่าย Toyota คว้าแชมพ์โลกมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ
Honda
ค่าย Honda จัดเต็มกับบรรดารถแต่งหลากหลายรุ่น ไล่เรียงตั้งแต่รายการ F1 จากทีม Toro Rosso , รายการ WTCR , แชมพ์จากรายการ Super GT พร้อมกับการสมภาษณ์บรรดานักแข่ง และทีมแข่งในรายการ Super GT ที่ใช้รถแข่งพื้นฐาน Honda NSX
ส่วนรถที่ทำตลาดจริง นำมาตกแต่งโดยค่าย Mugen ตัวเด่น คือ Honda Insight ซีดานไฮบริดที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน เสริมชุดตกแต่งตัวถังภายนอก แต่รถที่แหวกแนวจริงๆ คือ Honda Civic Type-R ถูกเสริมตัวถังด้วยชุดแต่งต้นแบบของ Mugen มีรูปทรงฉีกแนวจากรุ่นปกติโดยสิ้นเชิง
Nissan
ค่าย Nissan ยังคงชูจุดเด่นด้วยรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้า และระบบไฮบริดแบบ e-Power จัดแสดงตัวแข่งของรายการ FormulaE ที่กำลังขับเคี่ยวฤดูกาลล่าสุด และเป็นการเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรกของ Nissan ถัดมา คือ ตัวแข่งของ Nissan Leaf เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พัฒนาขึ้นมาในรูปแบบรถแข่งตัวแรง จากเดิมรุ่นทำตลาดจริงเป็นแฮทช์แบคสำหรับการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ก็มีรถแข่งของรายการ Super GT มาโชว์ตัว และตัวลุยหิมะพื้นฐาน Juke
Suzuki
ค่ายอื่นเน้นความสปอร์ท แต่ค่ายนี้เน้นรูปแบบตัวลุย ตกแต่งเน้นการใช้งานสมบุกสมบัน กับ เอสยูวี คันเก่งที่ได้รับความสนใจมากมาย นั่นคือ Suzuki Jimny พร้อม 2 รูปแบบการตกแต่งที่เน้นการลุย และการใช้งานอเนกประสงค์ ส่วนบ้านเรามีโอกาสเข้ามาทำตลาดสูง แต่ต้องรอลุ้นเรื่องราคา ขณะที่อีกรุ่นที่นำมาแสดง คือ Suzuki Swift Sport ตกแต่งเสริมมาดสปอร์ท
Mitsubishi
ในบูธของ Mitsubishi เน้นบรรดาครอสส์โอเวอร์ของค่าย ตกแต่งตัวถังเพิ่มมาดสปอร์ท ได้แก่ Outlander PHEV , Elipse Cross (อาจมีโอกาสมาเปิดตัวในบ้านเราด้วย) และเอมพีวี ผสมครอสส์โอเวอร์ “ต้นตำหรับ” อย่าง Deliga รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวถังด้านหน้ารูปแบบใหม่ของค่าย เน้นความคมเข้ม เสริมมาดตัวลุยภายใต้ตัวถังแบบ เอมพีวี จุดเด่นของรถรุ่นนี้เสมอมา
Mazda
ค่ายนี้เน้นรุ่นใหม่ของ Mazda 3 มีโชว์ตัวบนเวที 2 คัน ทั้งตัวถังซีดาน และแฮทช์แบค ขณะที่ด้านล่างมีรุ่นซีดาน 1 คัน ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้ามาลองนั่งกันได้ แต่เราสังเกตว่า Mazda 3 แต่ละคันยังเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย การผลิตรุ่นพวงมาลัยขวาอาจต้องรออีกสักระยะ รวมถึงการเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา
Daihatsu
ค่ายรถเล็ก แต่ขอโชว์ความ “ซิ่ง” แบบกะทัดรัดกับเขาบ้าง กับรุ่นตกแต่งพิเศษของ Daihatsu Copen รวมถึงรถใช้งานขนาดเล็ก สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย และยังมีตัวแข่งยุคดั้งเดิม เพื่อบ่งบอกคนรุ่นใหม่ว่า ครั้งหนึ่ง Daihatsu ก็มีรถแข่งกับเขาเช่นกัน
Subaru
เน้นชุดตกแต่งตัวถังของ Subaru Forester รุ่นที่โชว์ตัวเป็นขุมพลัง e-Boxer ที่เตรียมทำตลาดในอนาคตอันใกล้ เสริมชุดแต่งเพิ่มมาดสปอร์ทรอบคัน นอกจากนี้ยังมี Impreza ตัวถังสเตชันแวกอน เสริมชุดตกแต่งรอบคันเช่นกัน มาพร้อมชื่อ STi
Mercedes-Benz
ค่ายรถจากฝั่งตะวันตกหนึ่งเดียวในรายการนี้ Mercedes-Benz เน้นการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นของ A-Class ตัวถังแฮทช์แบค และตัวแรงตัวถังซีดานกับ Mercedes-AMG GT 4-Door Coupe พร้อมกับตัวแข่งจากรายการ Super GT คลาสส์ GT300 ที่คว้าแชมพ์ในปีที่ผ่านมา
จุดสนใจของงาน Tokyo Auto Salon 2019 หนีไม่พ้นบรรดาสำนักตกแต่งที่เข้ามาร่วมงานกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสมรรถนะ ล้อแมก และชุดตกแต่งตัวถัง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ การเสริมความดุดันของตัวถังจากสำนัก Liberty Walk รวมถึงการตกแต่งที่ฉีกแนวจากรูปแบบตัวถังเดิมมากมาย จัดแสดงในแต่ละฮอลล์อย่างคึกคัก
ด้านนอกของฮอลล์ 7 และ 8 มีการจัดแสดงกิจกรรมสำหรับผู้สนใจ ได้แก่ บูธของเกม Gran Turismo Sport อีกหนึ่งเกม Playstation 4 ที่เน้นการขับขี่ที่สมจริง มีเครื่องจำลองการขับขี่มาให้ผู้ที่มั่นใจในฝีมือประลองเวลากัน , ถัดมา คือ บูธของภาพยนต์ Fast & Furious ไล่เรียงช่วงเวลาการเปิดตัวหนังแต่ละภาค คาดว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนภาคใหม่ตอนพิเศษ ที่จะฉายในปีนี้อย่าง Hobbs and Shaw , บูธของ Tomica กับบรรดารถจำลองขนาดเล็ก แต่ตัวงานมีความละเอียด เหมาะสมกับราคา สำหรับบนักสะสมทั้งหลาย , บูธของการ์ตูนเรื่อง MF Ghost ผู้แต่งเดียวกับเรื่อง Initial D มีการขายสินค้าเกี่ยวเนื่องด้วย ได้รับความสนใจจากแฟนๆ มากมาย ยอมต่อคิวกันยาวเพื่อรอซื้อสินค้าในบูธ
ที่ฮอลล์ 11 ท่ามกลางรถตัวแรงที่จัดแสดงมากมาย มีรถตุ๊กๆ ของบ้านเราจัดแสดง 1 คัน ไม่ใช่ตุ๊กๆ ธรรมดา เพราะหันมาวางเครื่องยนต์ของ Mazda รหัส RX8-13B-MSP เผยให้เห็นการวางเครื่องยนต์ในโครงสร้างตัวถังอย่างลงตัว ทางผู้ผลิต คือ CSO Corporation อ้างว่า นี่อาจจะเป็น ตุ๊กๆ ที่มีสมรรถนะสูงที่สุดคันหนึ่งก็ว่าได้ เพราะน้อยคนนักที่จะใจถึงวางเครื่องยนต์ที่มีความแรงใน ตุ๊กๆ เช่นนี้ !
นอกเหนือจากชุดตกแต่งตัวถัง และสมรรถนะเครื่องยนต์แล้ว ยังมีสำนักแต่ง ที่เน้นการทำตัวถังรถให้แหวกแนวกว่าเดิมโดยสิ้นเชิง สำหรับผู้ที่ต้องรถยนต์ที่ไม่เหมือนใคร (แน่นอน ต้องมีงบประมาณมากพอด้วย) หลายคันจึงดูแปลกตา เหนือจริง แต่ก็เพื่อการโชว์ “ฝีมือ” มากกว่า เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของรถที่มาโชว์ในงานนี้
ระหว่างการเดินชมงาน บางครั้งเราสังเกตว่า ที่บูธจัดแสดงมีผู้คนมากมาย รวมถึงบรรดาตากล้องที่กด Shutter อย่างคึกคัก เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป้าหมายหลัก คือ สาว Pretty ประจำบูธนั่นเอง เรียกความสนใจจากผู้เข้าชมงาน และตากล้อง ได้ไม่น้อยหน้าบ้านเราเลยด้วยซ้ำ !
Tokyo Auto Salon จัดที่ Makuhari Messe เป็นศูนย์จัดแสดงขนาดใหญ่พอสมควร การเดินทางมีหลากหลายวิธี แต่ทีมงานของเราใช้รถไฟฟ้า JR สาย Keiyo Line นั่งออกจากสถานี Tokyo ประมาณ 30 นาที ไม่ต้องเปลี่ยนสายใดๆ (เส้นทางจะผ่าน Tokyo Disneyland ด้วย) ขณะที่บัตรเข้าชมงาน ในวันแรกเป็นรอบสื่อมวลชน จนถึงช่วงเวลา 14:00 น. (เวลาของประเทศญี่ปุ่น) จะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อบัตรแบบ Premium เข้าชมงานได้ โดยมีราคาหน้างานที่ 3,500 เยน (ซื้อล่วงหน้าจะเป็น 3,000 เยน) ส่วนวันที่ 2 และ 3 ของการจัดงาน เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้าชม ราคาบัตรหน้างานจะอยู่ที่ 2,500 เยน สำหรับผู้ใหญ่ (1,800 เยน สำหรับเด็กอายุ 13-18 ปี ถ้าอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี) หากซื้อล่วงหน้าจะมีราคา 2,000 เยน **ข้อมูลของงานปี 2019 เงื่อนไข และราคาอาจมีความแตกต่างกัน โปรดศึกษารายละเอียดให้ดี ในช่วงใกล้วันงานของปีถัดไป**
8 ประเด็นที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงาน Tokyo Auto Salon 2019 เท่านั้น โดยรวมแล้วหลายยี่ห้อมีการเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเช่นกัน แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง รถยนต์หลายรุ่นก็มีการจำหน่ายในบ้านเรา หรือเตรียมจำหน่ายในอนาคตอันใกล้ ถือว่ามีความน่าสนใจในแง่ของรถที่ทำตลาดจริง ดังนี้แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่เหล่าผู้ชื่นชอบรถยนต์ และรถตกแต่งไม่ควรพลาด !
ข้อมูลเพิ่มเติม : Tokyo Auto Salon