รถล่าสุด
ค่าย Mercedes-Benz เผยโฉมรถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า EQA ก่อนพบกันในงาน Motor Expo 2018
EQA คือ รถยนต์แนวคิดที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ EQ เตรียมถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพกท์ ด้วยระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุดที่เพลาหน้า และอีก 1 ชุดที่เพลาท้าย ทำให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าคันนี้ให้กำลังสูงสุดกว่า 270 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบ่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า และหลัง ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามสภาวะการขับขี่
มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมื่อมองภาพของอนาคต ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ ซึ่งเรื่องนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับการทำงานทุกด้าน ทั้งการพัฒนาและการผลิตรถยนต์ การขับเคลื่อนยานพาหนะ ตลอดจนการบริการด้านการเดินทางและการสื่อสาร สำหรับเดมเลอร์ เราได้ตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น พร้อมได้มีการระดมความคิดเพื่อพัฒนากลยุทธ์ขึ้นมาใหม่ ที่เกิดจากการนำปัญญาประดิษฐ์และกระบวนการในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยชื่อว่า เคส (CASE) โดยยนตรกรรมแห่งอนาคตของเมร์เซเดส-เบนซ์ จะดำเนินงานตามกลยุทธ CASE ที่มาจากรากฐานแนวคิดใหม่ 4 ประการ ได้แก่ Connected Autonomous Shared & Service และ Electric Drive ที่ทางบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดดังกล่าวทำให้เมร์เซเดส-เบนซ์ กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นบแรนด์รถยนต์ที่ไม่ปล่อยไอเสียเลย”
EQA มีปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity มาตีความใหม่ พร้อมกับขับเคลื่อนแนวคิด Modern Luxury ให้พัฒนาสู่ความเป็น Progressive Luxury โดยลบองค์ประกอบที่เป็นสันเหลี่ยม และเส้นสายต่างๆ ออกไป เปลี่ยนมาเน้นความบริสุทธิ์หมดจด พื้นผิวที่ราบเรียบไร้รอยต่อ ผสานกับรูปแบบกราฟิกที่เร้าอารมณ์ เกิดจากการใช้แผงด้านหลังแบบไฮเทคสีดำ ทำให้รถยนต์คันนี้ดูมีเสน่ห์อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังเพิ่มความสวยงามภายนอกด้วยเทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่โดดเด่นโดยการใช้แสงเลเซอร์ ถูกฝังไว้ในแกนกลางของเคเบิลใยแก้ว ไฟรูปทรงขดเกลียวเล็กๆ สวยสะดุดตา เป็นการออกแบบที่ชวนให้นึกถึงขดลวดทองแดงในมอเตอร์ไฟฟ้า และภาพการเคลื่อนไหวที่สื่อถึงการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ส่งกำลังร่วมกันอย่างเป็นระบบ กำลังสูงสุดถึง 270 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา สมรรถนะเร้าใจ ภายใต้โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ นั่นคือ Sport และ Sport Plus ปรับเปลี่ยนกำลังที่ส่งไปยังล้อหน้า และหลังในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน บุคลิกการขับขี่จึงแตกต่างกันด้วย แผงสีดำบริเวณกระจังหน้าแบบเสมือนสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ที่ใช้ โดยในโหมด Sport จะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด Sport Plus จะแสดงภาพเป็นเส้นขีดแนวตั้งแบบแพนอเมริกานา
มร.โรลันด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศไฟฟ้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทั้งในด้านการผลิต และการบริการเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายการผลิตแบทเตอรีทั่วโลกของเมร์เซเดส-เบนซ์ โดยจะผลิตเพื่อรองรับความต้องการในประเทศ และเพื่อส่งออก เดมเลอร์ใช้เงินลงทุนรวมกว่า 1,180,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเครือข่ายการผลิตแบทเตอรีดังกล่าว ซึ่งยังมีโรงงานทั้งในประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และจีนอีกด้วย เครือข่ายการผลิตแบทเตอรีนี้จะตอบสนองความต้องการในตลาดอย่างยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการผลิตรถยนต์ ซึ่งกลยุทธนี้จะทำให้มีเทคโนโลยีแบทเตอรีอันทันสมัยจากศูนย์กลางการผลิตในแต่ละพื้นที่ ทั้งยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกาไว้พร้อมรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ เมร์เซเดส-เบนซ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นตามแผนงานรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท ทั้งนี้ โรงงานผลิตแบทเตอรีในประเทศไทยมีแผนจะเริ่มเดินสายการผลิตภายในปี พ.ศ. 2562”
“อีกหนึ่งแผนการตลาดสำคัญที่เรากำลังดำเนินการอยู่ คือการสร้างเครือข่ายขยายจุดติดตั้ง สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าตามไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนไป โดยลูกค้ามองหาความสะดวกสบายในการชาร์จรถยนต์มากขึ้น นอกจากการชาร์จรถยนต์ที่บ้าน ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เมร์เซเดส-เบนซ์ ห้างสรรพสินค้า หรือตามโรงแรม เป็นต้น โดยเราวางแผนที่จะสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นกว่า 200 จุด ครอบคลุมทั้งผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่ง ทั่วประเทศ โรงแรมชั้นนำในเครือ Marriott International, Minor Hotels และ Hilton และศูนย์การค้าชั้นนำ อาทิ สยามเซนเตอร์, เซนทรัลเวิลด์, พาราไดซ์ พาร์ค นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้เดินหน้าวางแผนเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายแห่งในอนาคตเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นของรถยนต์บแรนด์ EQ Power”
รถต้นแนวคิด EQA สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางสูงสุดประมาณ 400 กม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแบทเตอรีที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย ซึ่งแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน เป็นแบบเซลล์กระเป๋า (Pouch Cell) ผลจากการออกแบบในแบบโมดูลาร์ ทำให้ระบบแบตเตอรี่ชนิดนี้มีความจุรวมมากกว่า 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง
EQA สามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านการเหนี่ยวนําแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction) หรือ Wallbox และยังรองรับการชาร์จเร็ว (Rapid Charging) อีกด้วย ในส่วนของวิสัยทัศน์ด้านการใช้บริการสถานีประจุไฟฟ้าสาธารณะจะเป็นการมุ่งสู่แนวคิด “การชาร์จที่ราบรื่นไร้ปัญหาติดขัด” โดยบริการที่มีชื่อว่า Mercedes Me ทำให้การชาร์จ และการจ่ายค่าบริการในสถานีประจุไฟฟ้าแห่งต่างๆ สะดวก และง่ายดายยิ่งขึ้น
พบกับรถแนวคิดพลังงานไฟฟ้าสุดล้ำคันนีได้ กับ EQA ในงาน Motor Expo 2018 วันที่ 29 พ.ย. – 10 ธ.ค. 2561 ณ บูธของ Mercedes-Benz พร้อมรถยนต์หรู และแรง หลากหลายรุ่น
เรื่องโดย : ภูเขม หน่อสวรรค์
คอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/252825