ทดลองขับ Mitsubishi Triton (L200) 2019

ทีมวิศวกร​ Mitsubishi พัฒนาพิคอัพ​ L200​ หรือ​ Triton​ คันเดิมที่เราคุ้นเคย​ แบบพลิกโฉมภายใต้แนวคิด “แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค-Engineered Beyond Tough” การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงออกแบบ​ Triton​ ใหม่ ให้โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซจ์นที่ผสมผสานความสปอร์ท​ และความแข็งแกร่ง Mitsubishi​​ ยังยกระดับโคมไฟหน้าให้สูงขึ้นอีก​ 100 มม.​ และชุดไฟทั้งหมดให้สูงพอที่จะลุยน้ำที่ท่วมถนนลึกถึง​ 700 มม.​ เพื่อเอาชนะอุปสรรคได้ในทุกเส้นทาง เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ​ ไฟหน้าพโรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบปรับระดับสูง/ต่ำ กระบะท้ายใหม่​ ไฟท้ายแบบแอลอีดีขนาดใหญ่ที่นำเอาเส้นนำแสงรูปทรงคล้ายกับ Pajero Sport พร้อมทั้งแบ่งส่วนไฟเบรค​ ไฟเลี้ยว​ และไฟถอยหลัง​ มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไกล​ กันชนหลังใหม่ที่มีเหลี่ยมมุม​เข้ากับเส้นสายที่ดูแกร่ง ในรุ่น​ 4WD ล้อที่ให้มาก็เป็นขนาด​ 18 นิ้ว​ พร้อมยาง​ 265/60 R18 รวมทั้งกลุ่มยกสูง​ Plus​ ยกเว้นรุ่น​ GLS M/T และ​ GLX M/T ตกแต่งภายใน​ห้องโดยสารและเปลี่ยนชุดคอนโซลใหม่​ เสริมความหรูด้วยเบาะรับแรงกระแทกทั้งข้างคอนโซลเกียร์​ และแผงข้างประตู​ หุ้มหนังเบรคมือ​ ที่วางแขนใหม่ขนาดใหญ่ ติดตั้งหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT Color LCD แสดงภาพแบบ​ 3 มิติ​ และช่อง​ USB สำหรับโทรศัพท์​มือถือ​ 2 ช่องใต้คอนโซลหน้า​ และหลังคอนโซลกลางอีก​ 2​ ช่อง​ พร้อมที่วาง จุดเด่น คือ​ ช่องแอร์เสริมบนเพดาน​ พร้อมสวิทช์ควบคุมหน้า/หลัง​ ครั้งแรกในพิคอัพ​ ซึ่งช่วยกระจายความเย็นได้ทั่วถึงกว่าเดิม เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ MIVEC ความจุ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รตน.​ แรงบิดสูงสุด​ 43.8 กก.-ม.​ หรือ 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รตน.​ ที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติใหม่ 6 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พัฒนาต่อยอดจากรถแข่งสู่เทคโนโลยี Super Select 4WD-II ที่เป็นการผสมผสานระบบขับเคลื่อน​ ​4​ ล้อ แบบพาร์ทไทม์ และฟูลล์ไทม์ เข้าไว้ด้วยกัน ควบคุมการปรับโหมดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มการยึดเกาะและให้สมรรถนะการขับขี่ ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD High-Range) โหมด 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราทดความเร็วสูง (4WD High-range with Locked) และโหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อน​ 4 ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked) นอกจากนี้ ยังมีโหมดลุย 4 รูปแบบ ทั้ง ​Gravel, Mud/Snow, Sand หรือ Rock มาพร้อมกับระบบลอคเฟืองท้าย (Rear Differential Lock) เพื่อการลุยฝ่าอุปสรรคบนทางดิน ในกิจกรรมทดลองขับระดับโลกครั้งนี้​ แบ่งเป็น​ 2 กลุ่ม​ กลุ่ม​ 1​ เน้นโหมดลุย​ กลุ่ม 2​ เน้นการใช้งาน กลุ่ม​ 1​ เริ่มต้นที่สถานีแรก​ ทางฝุ่น​ Dirt Course เพื่อทดสอบการควบคุมและเสถียรภาพบนเส้นทางขรุขระเพื่อทดสอบ สถานี​ที่​ 2​ ขับเคลื่อน​ 4 ล้อ ที่มีอุปสรรคแตกต่างกัน ทั้งการขับขี่ไต่เนินสูงเพื่อทดสอบระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน​ (HSA) และแรงบิดสูง​ ที่มาตั้งแต่​ 1,600 รตน. กับเกียร์อัตโนมัติใหม่ 6 จังหวะ ส่วนการไต่ลงทางลาดชันระบบควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกใน​ Triton​ ชะลอความเร็วและเพิ่มการยึดเกาะเมื่อลงจากเนินชัน การทดลองขับบนเส้นทางเอียงข้าง และเอียงสลับกัน เป็นการจำลองอุปสรรคต่างๆ เพื่อพิสูจน์สมรรถนะความแกร่ง ปิดท้ายด้วยการเปิดประสบการณ์แบบแรลลีหฤโหดใน "Extreme Experience Course" โดย​ ฮิโรชิ มาซูโอกะ นักแข่งรถแรลลีชาวญี่ปุ่น และเจ้าของแชมพ์ดาการ์ 2 สมัย แสดงการควบคุมและสมรรถนะของ Mitsubishi triton ใหม่ ที่สร้างความประทับใจให้สื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงาน กลุ่ม​ 2 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พัฒนาต่อยอดจากรถแข่งสู่เทคโนโลยี Super Select 4WD-II ที่เป็นการผสมผสานระบบขับเคลื่อน​ ​4​ ​ล้อ แบบ พาร์ทไทม์ และฟูลล์ไทม์เข้าไว้ด้วยกัน ควบคุมการปรับโหมดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มการยึดเกาะและให้สมรรถนะการขับ สนามทดสอบรถขับเคลื่อน​ 4 ล้อ​ โหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อน​ 4 ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked)  และโหมดลุย 4 รูปแบบ ทั้ง Gravel, Mud/Snow, Sand หรือ Rock พร้อมกับระบบลอคเฟืองท้าย (Rear Differential Lock) และการขับแบบใช้งานจริง​ ด้วย​ Triton​ 4WD เกียร์ธรรมดา​ 6 จังหวะ​ ซึ่งระบบกันสะเทือน​ออกแบบมาให้แกร่งพร้อมสมบุกสมบัน ขณะเดียวกันก็มีความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมือง และทางไกล ด้วยช่วงล่างด้านหน้าอิสระ แบบปีกนกคู่ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อน พร้อมชอคอับไขว้ และแชสซีส์ที่แข็งแกร่ง Triton​ ใหม่ ยังพร้อมปกป้องยิ่งกว่าด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันทันสมัย อาทิ​ ระบบปรับระดับไฟสูง/ต่ำอัตโนมัติ (AHB) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) ด้วยระบบตรวจจับได้ทั้งพาหนะและผู้ใช้ทางเท้า ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW) ระบบช่วยเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) กล้องมองภาพรอบคัน และเซนเซอร์ช่วยในการถอยจอด