ธุรกิจ
โพร์เช ยั้งไม่หยุด ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 6 %
Oliver Blume ซีอีโอของ โพร์เช อาเก เปิดเผยว่า ด้วยความแข็งแกร่งขององค์กร ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 3 ส่งผลให้ โพร์เช อาเก ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกวาระ ทั้งในแง่ของผลประกอบการ รายรับรวม ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ และจำนวนบุคลากร คุณภาพผู้ร่วมปฏิบัติงานกับบริษัทที่เพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2018 ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขผลประกอบการในช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้า พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นประมาณ 11 % หรือ 3.3 พันล้านยูโร สำหรับรายรับรวมเพิ่มขึ้นกว่า 12 % หรือ 19.1 พันล้านยูโร ผลตอบแทนจากการขายอยู่ที่ 17.4 % ยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 6 % หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ โพร์เช ที่ส่งถึงมือลูกค้าผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ททั่วทุกมุมโลกมากถึง 196,562 คัน เมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในส่วนของอัตรากำลังคนเพิ่มขึ้นประมาณ 8 % แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 31,753 ตำแหน่ง
"โพร์เช พานาเมรา (Porsche Panamera) และรถสปอร์ทเรือธง 911 (Porsche 911) ของเรา ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และตลาดมีความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ คือ ทีมบุคลากรที่แข็งแกร่งของเราทุกคน ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงระดับ 32,000 คน อันเป็นสถิติของบริษัทอีก 1 ไตรมาสต่อจากนี้ ตำแหน่งงานอีกกว่า 1,200 ตำแหน่ง จะถูกเพิ่มเติมขึ้นเพื่อรองรับการถือกำเนิดของ ไทย์คาน (Taycan) รถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกจาก โพร์เช และขณะนี้คณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลการดำเนินงานได้เปิดสัญญาณไฟเขียวอนุมัติให้ผลิต โพร์เช ไทย์คาน ครอสส์ ตูริสโม (Porsche Taycan Cross Turismo) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถคันนี้ คือ อีกหนึ่งเวอร์ชันของรถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้าที่กำลังจะได้รับการผลิตขึ้นจริงเป็นรุ่นที่ 2 เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว เราวางแผนที่จะเสริมกำลังคนเพิ่มขึ้นอีกกว่า 300 อัตรา"
Lutz Meschke รองประธาน และสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้ดูแลส่วนงานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของ โพร์เช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ผลงานตลอดระยะเวลา 3 ไตรมาสที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการเติบโต ซึ่งเกิดขึ้นจากแรงผลักดันในเชิงบวกและยอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนผลกระทบในเชิงลบนั้นมีสาเหตุหลักจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน และการทุ่มงบประมาณลงทุนจำนวนมากในการพัฒนาระบบขับเคลื่อน พลังงานไฟฟ้า เช่นเดียวกับการแสวงหาแนวทางการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ให้แก่องค์กรความสำเร็จที่เกิดขึ้น เป็นแรงผลักดันให้เราพยายามสร้างสรรค์ผลงานให้ดีมากกว่าเดิมสำหรับช่วงเวลาปลายปีที่เหลืออยู่ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของพวกเราอย่างมาก
นอกจากความไม่แน่นอนของกระแสเศรษฐกิจและการเมือง ยังต้องพร้อมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการทดสอบ WLTP test cycle แบบใหม่ รวมทั้งการทดสอบการทำงานของระบบ Gasoline Particulate Filters พร้อมกับการยุติบทบาทของเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งนี้กฎข้อบังคับด้านมลภาวะฉบับใหม่ ได้เริ่มประกาศใช้อย่างเป็นทางการทั่วทั้งทวีปยุโรปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในอนาคต ซึ่งทุกคันจะต้องผ่านข้อกำหนดดังกล่าว
โพร์เช สามารถสร้างสถิติใหม่ ภายในช่วงเวลาเพียง 9 เดือนแรกของปี 2018 ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นถึง 6 % หรือคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 196,562 คัน การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพของบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ทชั้นนำของโลกรายนี้ ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของ โพร์เช ที่เพิ่มพูนขึ้นในภูมิภาคยุโรป โดยแสดงให้เห็นจากอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 9 % หรือ 66,551 คัน ทั้งนี้เฉพาะในประเทศเยอรมนีเพียงแห่งเดียว โพร์เช มียอดส่งมอบเพิ่มขึ้นกว่า 13 % คิดเป็น 24,709 คัน ในส่วนของประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดของ โพร์เช ตัวเลขจำนวนการส่งมอบรถยนต์ใหม่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 4 % หรือ 56,254 คัน
เมื่อพิจารณาแยกแต่ละรุ่น โพร์เช พานาเมรา (Porsche Panamera) คือ รุ่นที่มีอัตราการเติบโตเป็นสัดส่วนสูงที่สุด หลังสิ้นเดือนกันยายน จำนวนของรถสปอร์ทซาลูน 4 ประตู ที่ถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าทั่วโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง 60 % ทางด้าน โพร์เช 911 (Porsche 911) สามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ที่ตัวเลข 2 หลักด้วยสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นกว่า 19 % สำหรับ โพร์เช รุ่นที่สร้างยอดได้มากที่สุดยังคงเป็นสปอร์ทเอสยูวี มาคัน (Macan) จากตัวเลขส่งมอบรวม 68,050 คัน และตามมาด้วย คาเยนน์ (Cayenne) ที่ 49,715 คัน
โพร์เช คาดหมายว่าปี 2018 บริษัทจะยังคงมีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมและบรรลุถึงเป้าหมายเช่นเดียวกับปี 2017 ที่ผ่าน มาด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่สูงถึง 246,375 คัน ถึงแม้ว่าเงื่อนไขหลักของการบรรลุความสำเร็จดังกล่าวให้ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 คือ การสร้างรายรับรวมตลอดปีงบประมาณ 2018 ให้เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยอาศัยการผสานข้อได้เปรียบจากปัจจัยเชิงบวกหลายประการ จุดมุ่งหมาย คือ ปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมต่อเนื่อง จากปีที่แล้ว ทั้งนี้แผนกลยุทธ์ที่ต้องการผลตอบแทนจากการขายที่ตัวเลข 15 % นั้นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/250718