ธุรกิจ
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ ปลื้ม 3 ไตรมาสแรก ยอดจดทะเบียนทะลุเป้า
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถบิกไบค์พรีเมียมไทย เผยภาพรวมยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน ปี 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,927 คัน มั่นใจสิ้นปีนี้มียอดจดทะเบียน 3,000 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 45 % ถือเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดรถมอเตอร์ไซค์พรีเมียมสัญชาติยุโรป และสหรัฐอเมริกา พร้อมรุกสร้างความแข็งแกร่งให้กับบแรนด์ต่อเนื่องผ่านการเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งประเทศ รวมถึงการเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายใน 3 กลุ่มรถไลน์ผลิตหลัก ได้แก่ กลุ่มโมเดิร์นคลาสสิค (Modern Classic) กลุ่มแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริง (Adventure & Touring) และกลุ่มเนเคดโรดสเตอร์ (Naked Roer) ตอกย้ำบแรนด์รถมอเตอร์ไซค์พรีเมียมอันดับ 1 ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ระดับไฮคลาสส์ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้
จักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2558 ที่ ทไรอัมฟ์ ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในนาม บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด พบว่าตลาดรถมอเตอร์ไซค์พรีเมียมในกลุ่มบแรนด์สัญชาติยุโรปและสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย ทไรอัมฟ์ มีสัดส่วนอยู่ในอันดับที่ 2 คือ มีส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 25 % ต่อมาในปี 2559 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40 % โดยนับเป็นอันดับ 1 และในปี 2560 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 44 % ผ่านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มโมเดิร์นคลาสสิค กลุ่มแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริง และกลุ่มเนเคดโรดสเตอร์ ในขณะที่ปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2561 มียอดจดทะเบียนประมาณ 1,927 คัน (ที่มา: กรมขนส่ง) หรือคิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 44 % ซึ่งถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม คาดการณ์สิ้นปีนี้ยังคงรักษาสัดส่วนผู้นำดังกล่าวเอาไว้ได้
จักรพงษ์ กล่าวต่อว่า การเติบโตที่แข็งแกร่งของ ทไรอัมฟ์ ในประเทศไทย เป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่องหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ การเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างการรับรู้บแรนด์ในกลุ่มผู้บริโภค ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์ และในงานมหกรรมยานยนต์ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญต่อการสื่อสารเรื่องแคมเปญ หรือกิจกรรมต่างๆ บนช่องทางออนไลน์ ที่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค โดยช่องทางดังกล่าวช่วยขยายฐานลูกค้าในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมียมให้กว้างขวางมากขึ้นอีกด้วย ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนประสิทธิภาพการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดกิจกรรมออกทริพสำหรับดีเลอร์และลูกค้าตลอดทุกเดือน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในทางบวกแก่ทั้งดีเลอร์และลูกค้าให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ปัจจุบัน ทไรอัมฟ์ มีฐานการผลิตรถมอเตอร์ไซค์เต็มรูปแบบ 2 แห่ง ได้แก่ เมืองฮิงค์ลีย์ ประเทศอังกฤษ และที่นิคมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิตราว 60,000 คัน/ปี ทั้งนี้โรงงาน ทไรอัมฟ์ ในประเทศไทย มีการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มโมเดิร์นคลาสสิค ทั้ง 10 รุ่น อันประกอบไปด้วย บอนเนวิลล์ ที 120 (Bonneville T120) บอนเนวิลล์ ที 120 บแลค (Bonneville T120 Black) บอนเนวิลล์ ที 100 (Bonneville T100) และบอนเนวิลล์ ที 100 บแลค (Bonneville T100 Black) รุ่นคลาสสิคร่วมสมัยอย่าง สตรีท ทวิน (Street Twin) และสตรีท สแกรมบเลอร์ (Street Scrambler) รวมถึงรถสไตล์ Café Racer ในตำนานอย่าง ธรักซ์ตัน อาร์ (Thruxton R) รุ่นคลาสสิคสวยสะกดทุกสายตาอย่าง บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ (Bonneville Bobber) บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ บแลค (Bonnevill Bobber Black) และบอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ (Bonneville Speedmaster) ตามมาด้วย กลุ่มแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริง อันประกอบไปด้วย ไทเกอร์ 800 เอกซ์ซีเอ (Tiger 800 XCA) ไทเกอร์ 800 เอกซ์อาร์ที (Tiger 800 XRT) และไทเกอร์ 800 เอกซ์อาร์ (Tiger 800 XR) โฉมใหม่ และกลุ่มเนเคดโรดสเตอร์ ได้แก่ สตรีท ทริเพิล อาร์เอส (Street Triple RS) ซึ่งกำลังการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ของ ทไรอัมฟ์ กว่า 70 % ที่จำหน่ายทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกได้ถูกผลิตขึ้น ณ โรงงาน ทไรอัมฟ์ ในประเทศไทยแห่งนี้
โดยผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็นไฮไลท์ของปี 2560 ที่ได้ทำการเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มีทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ กลุ่มโมเดิร์นคลาสสิค คือ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ บแลค (Bonneville Bobber Black) และบอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ (Bonneville Speedmaster) รวมถึงในกลุ่มแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวริงอย่าง ไทเกอร์ 800 เอกซ์ซีเอ (Tiger 800 XCA) ไทเกอร์ 800 เอกซ์อาร์ที (Tiger 800 XRT) และไทเกอร์ 800 เอกซ์อาร์ (Tiger 800 XR) โฉมใหม่ ซึ่งทั้งหมดต่างได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า โดยพบว่าตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบันยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ทไรอัมฟ์ ในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 9,600 คัน
นอกจากนี้ ทไรอัมฟ์ ยังได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยแผนดำเนินการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทไรอัมฟ์ เวิร์ลด์ สแตนดาร์ด (Triumph World Standard) ทั้งด้านการจัดจำหน่ายและการบริการหลังการขายให้เหมือนกันทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเติมที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคตให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดอันเป็นหัวใจสำคัญควบคู่ไปกับการมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวยงามคลาสสิคร่วมสมัยเข้ากับความแม่นยำในการควบคุมและสมรรถนะอันเป็นเลิศ เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบตามสโลแกน “ฟอร์ เดอะ ไรด์” (For The Ride) ซึ่งทั้งหมดนี้มั่นใจได้ว่า ทไรอัมฟ์ จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มตลาดรถมอเตอร์ไซค์พรีเมียมสัญชาติยุโรปและสหรัฐอเมริกาในไทย ตอกย้ำตำแหน่งบแรนด์รถมอเตอร์ไซค์บิกไบค์พรีเมียมอันดับ 1 ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ระดับพรีเมียมที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้” จักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เวบไซท์ www.triumphmotorcycles.co.th หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand
เรื่องโดย : สุดาภรณ์ ไกรแก้ว
ภาพโดย : บริํษัทผู้บริษัท
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/248127