นับเป็นข่าวฮือฮาในประเทศจีน เมื่อยอดการขายในตลาดรถยนต์จีน เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ค่าย Audi สามารถทำยอดขายได้มากกว่าค่าย Mercedes-Benz โดยทำได้ 52,616 คัน เพิ่มขึ้น 3.8 % ขณะที่ค่าย Mercedes-Benz แม้ว่าจะขายเพิ่มถึง 8.3 % แต่ทำยอดได้เพียง 52,191 คันรถของ Audi ที่ขายมากที่สุดเป็นรถรุ่น A4 ซีดาน ช่วงยาว ซึ่งเพิ่มขึ้น 33 % ขายได้ 13,985 คัน ขณะที่ค่าย BMW ขายได้เพิ่ม 8.3 % ด้วยยอด 44,135 คัน ในช่วงเดียวกัน ใน 7 เดือนแรกของปี ยอดขายรวมของ Audi ยังคงไล่หลัง Mercedes-Benz อยู่ โดยขายได้ 359,781 คัน เพิ่มขึ้น 17 % ขณะที่ Mercedes-Benz ขายเพิ่ม 15 % ทำได้ 392,780 คัน ส่วน BMW เพิ่ม 4 % ขาย 330,671 คัน ในปี 2560 ที่ผ่านมา ค่าย Audi ครองตำแหน่งรถหรูที่ขายดีที่สุดในประเทศจีน ราคาจำหน่ายของค่าย Audi สามารถทำกำไรได้มากกว่าคู่แข่งเยอรมัน อีก 2 ราย ทั้ง Mercedes-Benz และ BMW จากการลดอัตราภาษีของรัฐบาลจีน สำหรับรถยนต์สั่งนำเข้าเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งลดจาก 25 % เหลือเพียง 15 % ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เพื่อเป็นการตอบโต้สงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจีนได้ขึ้นภาษีสั่งนำเข้ารถเอสยูวีที่ประกอบในสหรัฐอเมริกา จาก 25 % เป็น 40 % ซึ่งกระทบกับ Mercedes-Benz และ BMW โดยตรง Mercedes-Benz สั่งนำเข้ารถรุ่น GLE และ GLS จากโรงงานในอลาบามา ไปจำหน่ายในจีน ขณะที่ BMW ส่งรถรุ่น X5 และ X6 จากโรงงานในเซาธ์แคโรไลนา เข้าไปจำหน่าย ขณะที่ ค่าย Audi ไม่ได้สั่งนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐอเมริกาไปจำหน่ายในประเทศจีน