ธุรกิจ
มิเชอแลง ตอกย้ำความเป็นผู้นำของโลกด้านกลุ่มธุรกิจยางเฉพาะด้าน ด้วยการเข้าซื้อกิจการของแคมโซ (Camso)
มิเชอแลง และแคมโซ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน โดยที่ มิเชอแลง จะเข้าซื้อกิจการของ แคมโซ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่อยู่ที่เมืองมากอก รัฐควิเบค ประเทศแคนาดา หลังจากที่ได้มีการทำข้อตกลงดังกล่าว กิจการทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสัญจรนอกทางหลวง (Off-the-road: OTR) ของทั้ง 2 บริษัทจะผสานเข้าด้วยกันเพื่อแยกเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่และมีศูนย์กลางการบริหารอยู่ที่รัฐควิเบค ด้วยค่านิยมองค์กรที่โดดเด่น วัฒนธรรมด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง และทีมงานที่มีศักยภาพสูงที่ทั้ง 2 บริษัทมีคล้ายคลึงกัน ความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างให้กลุ่มธุรกิจที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่นี้กลายเป็นผู้นำด้านการสัญจรนอกทางหลวงของโลก
แคมโซ มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 40,000 ล้านบาท) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจออกแบบ ผลิต และจำหน่ายโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับการสัญจรนอกทางหลวงมาตั้งแต่ปี 1982 แคมโซ เป็นผู้นำของตลาดทแรค (หรือที่เรียกทั่วไปว่า “ตีนตะขาบ”) ที่ผลิตจากยางสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรและรถที่ใช้วิ่งบนหิมะ (Snowmobile) ยางตันและยางผ้าใบสำหรับเครื่องจักรขนย้ายวัสดุ นอกจากนี้ แคมโซ ยังเป็น 1 ใน 3 บริษัทที่เป็นผู้นำตลาดการก่อสร้าง โซลูชันที่เกี่ยวข้องกับทแรคและยางสำหรับเครื่องจักรกลหนักขนาดเล็ก นอกจากนี้ การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทแรค และระบบที่เกี่ยวข้อง การมีโรงงานการผลิตที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในศรีลังกา รวมถึงชื่อเสียงของบแรนด์ แคมโซ และบแรนด์ โซลิดีล ที่มีลูกค้ารู้จักและจดจำในวงกว้าง ทำให้ แคมโซ สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ 7 % ต่อปี ตั้งแต่ปี 2012
การผนึกกำลังกับ แคมโซ จะช่วยให้ มิเชอแลง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มตลาดยางนอกทางหลวง ยิ่งไปกว่านั้น การมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ควิเบค จะช่วยให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของฝ่ายบริหารของ แคมโซ และการดำเนินธุรกิจของ มิเชอแลง ที่มีมาช้านานในแคนาดา ทั้งที่เมืองลาวาล รัฐควิเบค และรัฐโนวาสโกเชีย ในฐานะผู้นำของโลก กลุ่มธุรกิจใหม่นี้จะมียอดขายมากกว่า 2 เท่าของยอดขายของ แคมโซ ในปัจจุบัน ถือเป็นข้อได้เปรียบจากการมีโรงงานการผลิตกว่า 26 แห่ง และพนักงานกว่า 12,000 คน ทั้งนี้ ยังได้รับประโยชน์จากตลาดที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
จากการวางตำแหน่งสินค้าและบริการของทั้ง 2 บริษัทที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลดีดังต่อไปนี้
ในเชิงการตลาดและการขาย
- ในกลุ่มตลาดยางเพื่อการเกษตร เราจะเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทั้งยางเรเดียลแบบพรีเมียมและทแรคสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตร
เครือข่ายการกระจายสินค้าของทั้ง มิเชอแลง และแคมโซ ที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันจะช่วยเร่งให้กลุ่มธุรกิจใหม่นี้สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว
การทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยของ แคมโซ และมิเชอแลง จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถเชิงนวัตกรรมของกลุ่มที่เกี่ยวกับทแรค และยางไร้อากาศ การผสานความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาจะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำของ มิเชอแลงในฐานะผู้นำทางเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการสัญจรอย่างยั่งยืน โดยในปัจจุบัน การนำเสนอยางที่โดดเด่นเรื่องสมรรถนะและสามารถใช้งานได้ยาวนานถือเป็นสิ่งที่ทำให้ มิเชอแลง ก้าวล้ำคู่แข่ง อีกทั้งยังเป็นตัวแปรสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ มิเชอแลง เช่น การลดการบดอัดดินและการเพิ่มแรงฉุดลากจะช่วยส่งเสริมให้สินค้าที่ แคมโซ พัฒนาขึ้นมามีสมรรถนะที่ดีมากกว่าเดิม
ในเชิงการผลิต
“การได้ทำงานร่วมกับทีมงานยางนอกทางหลวงของ มิเชอแลง ถือเป็นโอกาสที่ดีเลิศสำหรับ แคมโซ เพราะเรามีความคล้ายคลึงกันทั้งในด้านวัฒนธรรมองค์กรและศักยภาพในการเติบโต” ปิแอร์ มาร์คูเยร์ ประธานบริหารของ แคมโซ กล่าว “แคมโซ จะบรรลุเป้าหมายสูงสุดของบริษัท คือ การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มตลาดนอกทางหลวง ทีมงานที่เข้มแข็ง ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและการผลิต รวมถึงหลักแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่เน้นลูกค้าเป็นสำคัญจะช่วยเติมเต็มศักยภาพของ มิเชอแลง การควบรวมกิจการครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นของ แคมโซทุกคนเป็นอย่างดี”
จากการศึกษาและพูดคุยร่วมกับ แคมโซ มิเชอแลง ค้นพบช่องทางในการเพิ่มยอดขายและลดค่าใช้จ่าย โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลงหลังการควบรวมธุรกิจน่าจะสูงถึง 55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2021 โดยหลังจากการอนุมัติ มิเชอแลง จะเข้าซื้อกิจการของ แคมโซ ในราคา 1,450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยตีเป็นมูลค่าบริษัท 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 8.3 เท่าของ EBITDA* หลังการควบรวมกิจการ การดำเนินธุรกรรมครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อความเข้มแข็งทางการเงินของกลุ่มบริษัทมิเชอแลง แต่อย่างใด
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการควบรวมกิจการครั้งหนึ่ง มิเชอแลง มีพันธสัญญาดังต่อไปนี้
· ศูนย์กลางการตัดสินใจของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์นอกทางหลวงจะตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในมาก๊อก ฝ่ายบริหารรวมทั้งผู้บริหารระดับสูงจะปฏิบัติงานประจำอยู่ที่สำนักงานมากอก
· จำนวนพนักงานที่สำนักงานใหญ่ของ แคมโซ (พนักงาน 300 คน ซึ่ง 100 คน ทำงานในฝ่ายวิจัยและพัฒนา) ยังคงเท่าเดิม งานด้านการวิจัยและพัฒนาและการผลิตในควิเบกยังคงดำเนินไปตามปกติ
· ความเชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรับการดูแลธุรกิจดังกล่าวที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วโลก ผนวกกับยอดขายสุทธิที่คาดการณ์ไว้ของของธุรกิจใหม่นี้ จะนำไปสู่การสร้างงานใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูงในเมืองมาก๊อก รัฐควิเบกในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้
การเข้าซื้อกิจการของ แคมโซ ครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำว่า มิเชอแลง กำลังดำเนินการตามกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางและบริการที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังขยายการเติบโตสู่วัสดุที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการกระจายสินค้า นอกจากนี้ หลังจากการวิเคราะห์ในเชิงลึก มิเชอแลง ยังระบุว่าผลกำไรที่เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการของเฟนเนอร์จะเพิ่มสูงมากขึ้นถึง 60 ล้านปอนด์อังกฤษ จากที่ประกาศว่าเพิ่มขึ้น 30 ล้านปอนด์อังกฤษ ก่อนหน้านี้