โค้งอันตราย: ดีจริงๆ หรือเปล่า ?

ยอดการขายรถยนต์ 5 เดือนที่ผ่านมา นับถึงเดือนพฤษภาคม ตลาดโดยรวมขายได้ทั้งสิ้น 401,261 คัน เพิ่มขึ้น 18.0 % ขณะที่ยอดขายเพียงเดือนเดียว ขายได้ 27.9 % จำนวน 84,965 คัน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เหมือนกับว่าจะดี แต่ทำไมข้าวของแพงขึ้นจังเลยก็ไม่รู้ ข้าวแกงจานละ 35 บาทเข้าไปแล้ว ด้านค่ายยักษ์ใหญ่ ท่านบอกว่า การที่ขายรถกันได้ดีนี้ ก็เพราะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ ที่เริ่มกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์ แต่ที่สำคัญ แนวโน้มการลงทุนทั้งของภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มีการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับการแข่งขันการยื่นข้อเสนอพิเศษของบรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หันไปดูดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ระดับ  90.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือนเมษายน ตัวเลขอย่างอื่น อันนี้จากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ระบุว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2561 มีทั้งสิ้น 193,130 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2560 13.94 % จากการผลิตรถยนต์นั่ง และรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 16.6 % และ 18.83 % ตามลำดับ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ส่งออกได้ 98,875 คัน เพิ่มขึ้น 9.75 % การส่งออกเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาดจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าดีขึ้น ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง ตลาดอเมริกาเหนือ และตลาดอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ มูลค่าการส่งออก 51,877.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.05 % แต่มันมีเรื่องของการตั้งกำแพงภาษี เพื่อเป็นการโต้ตอบทางการค้า ที่สหรัฐอเมริกา ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากประเทศจีน มูลค่ามหาศาล จีน ก็ประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากสหรัฐอเมริกากลับบ้าง เป็นมูลค่ามหาศาลเช่นกัน แต่ท่ามกลางข้อพิพาทนี้ การส่งออกสินค้าไทยในเดือนพฤษภาคม ยังขยายตัวได้ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ขยายตัวได้ 11.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นมูลค่า 22,257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หนุนให้ภาพโดยรวมการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 5 เดือนแรก ของปี 2561 เติบโต 11.6 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าไทยในเดือนพฤษภาคม 2561 ได้ปัจจัยสนับสนุนมาจากการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 21 เดือน และขยายตัว 25.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้อานิสงส์จากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก ผลกระทบของช้างสารชนกัน ก็น่าจะมากระทบถึงบ้านเราได้ แต่น่าจะเป็นไปในปีหน้า เพราะต่างฝ่ายต่างก็ยังต้องออกประกาศ ออกมาตรการ ระบุว่าจะขึ้นภาษีสินค้าตัวไหน ระยะเวลาในการเริ่มบังคับใช้ ทั้ง 2 ค่ายก็ต้องทำงานกันอีกเยอะ บ้านเราพอได้ข่าวเรื่องนี้ ค่ายรถยนต์ทุกค่าย ต่างก็มองหาทางหนีทีไล่กันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ยังไม่พูดออกมาเท่านั้นแหละ โหรหลังสถานทูตจีน แกฝากบอกมา อย่างเพิ่งตระหนกตื่นตูมกันไปเลย อีกนาน กว่าแรงกระเพื่อมมันจะกระเพื่อมมาถึงประเทศไทย ฟากทางกระทรวงพาณิชย์ ก็ออกมาบอกว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกขยายตัวมาจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 12.6 % ต่อเป็นเดือนที่ 15 มีสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ รถยนต์ และส่วนประกอบ เพิ่ม 25.2 % เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ เพิ่ม 10.8 % เม็ดพลาสติค เพิ่ม 30.1 % เคมีภัณฑ์ เพิ่ม 35.8 % น้ำมันสำเร็จรูป เพิ่ม 30.7 % ส่วน ไม้ และผลิตภัณฑ์ไม้ ลด 15.2 % เครื่องโทรสาร และอุปกรณ์ ลด 15.6 % ดังนั้น พี่หมื่น ก็อย่าเพิ่งตระหนกอะไรไปจนเลยเถิด ยังมีเวลาเตรียมตัว เตรียมใจอีกนานจ๊ะ