ประกาศอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงโครงการก่อสร้างสายการผลิตในเยอรมนี ในชื่อ Factory 56 บนพื้นที่ 220,000 ตารางเมตร ในเมือง Sindelfingenเวลาผ่านไปเพียง 4 เดือน โครงการ Factory 56 กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อย้ายสถานที่ไปเป็นก่อสร้างในเมือง Kecskemét ใกล้เคียงกับโรงงานแห่งเดิมในประเทศฮังการี ด้วยเงินลงทุน 1 พันล้านยูโร ราว 40 พันล้านบาท ในการสร้างสายการผลิตระบบใหม่ แท่นปั๊มตัวถัง ส่วนผลิตโครงสร้างตัวถัง และสายการผลิต โดย Mercedes-Benz คุยว่า ต้องใช้เหล็กในการก่อสร้างราว 17,000 ตัน ในพื้นที่ที่เทียบเท่าสนามฟุตบอล 54 สนาม แผนงานของสายการผลิตรุ่นใหม่นี้ Mercedes-Benz เรียกว่าเป็น Full-Flex ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนรุ่นรถที่จะทำการประกอบ ได้ตามใจผู้บริหาร “ด้วยเงินลงทุนมหาศาลระดับนี้ เรากำลังสร้างฮังการี ให้เป็นโรงงาน Full-Flex แห่งแรกของเครือข่ายการผลิตของ Mercedes-Benz ในโลกใบนี้” Markus Schäfer ผู้รับผิดชอบโครงการ ระบุในคำแถลงการณ์ ผู้บริหาร Mercedes-Benz และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและการค้า รวมทั้งบรรดาคณะรัฐบาลฮังการี ร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์อย่างใหญ่โต เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา และเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน เพราะโรงงานแห่งนี้ จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 2,500 ตำแหน่ง โรงงานแห่งใหม่นี้ สามารถผลิตรถยนต์ได้หลายประเภท ตั้งแต่รถคอมแพคท์ ไปจนถึงรถซีดาน ซึ่งมีตัวถังหลายรูปแบบ และระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าไปจนถึงขับเคลื่อนล้อหลัง รวมทั้งในสายการผลิตเดียวกัน สามารถผลิตได้ทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปจนถึงรถไฟฟ้า โดยพนักงานจะทำงานร่วมกับเครื่องจักรแบบออโทเมท กึ่งอัตโนมัติ ในระบบดิจิทอล ได้อย่างปลอดภัย ระบบการขับเคลื่อนเพื่อการขนส่ง Driverless Transport Systems (DTS) สำหรับชิ้นส่วนต่างๆ จะไม่มีผู้ขับขี่ ทำงานโดยระบบดิจิทอล จะตรวจสอบชิ้นส่วนในการประกอบรถแต่ละคัน ที่จะส่งเข้าไปยังสายการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น แนวคิดในโครงการ Factory 56 นี้ต้องการให้เป็นโรงงานประกอบรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก โดยใช้คนเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทั้งปวง ที่ทำงานด้วย “ดิจิทอล, ปรับเปลี่ยนได้ง่าย และปลอดมลภาวะ” (Digital, Flexible, Green) ด้วยหลักการสำคัญ คือการใช้ระบบดิจิทอล ทั้งการเชื่อมต่อระหว่างโครงสร้างต่างๆ และวัสดุที่จะเลื่อนไหลไปยังสายการผลิต โดยพนักงานแต่ละคนจะมี แทบเลท, เครื่องควบคุมที่ถือไปไหนมาไหนได้, โทรศัพท์มือถือ และนาฬิกาสมัยใหม่ ในการทำงานประจำวัน โรงงานแห่งใหม่นี้ ไม่เพียงทำงานในยุคของอุตสาหกรรม 4.0 แต่ยังสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับโรงงานประกอบรถยนต์ของ Mercedes-Benz ทั่วโลกได้ด้วย