รายงานข่าวจาก Japan today ระบุว่า ค่าย Ford ประกาศเรียกรถเข้ารับบริการ จำนวน 2,900 คัน อันเนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการระเบิดของถุงลมนิรภัยรถยนต์ที่เรียกเข้ารับบริการครั้งนี้ เป็นรถกระบะ Ford Ranger รุ่นปี 2559 ที่จำหน่ายในอเมริกาเหนือ แถลงการณ์ของ Ford ระบุว่า “เราจริงจังกับการเรียกรถกระบะเข้ารับบริการครั้งนี้มาก ขอแนะนำให้เจ้าของ Ford Ranger รุ่นปี 2559 หยุดการใช้รถยนต์ เพื่อให้ผู้จำหน่ายได้ทำการซ่อมแซมในทันที” ผู้ผลิตระบุว่า การตัดสินใจเรียกรถเข้ารับการบริการครั้งนี้ เนื่องมาจากอุบัติเหตุ 2 ราย จากการเกิดระเบิดของถุงลมนิรภัย ภายในวันเดียวกัน ก่อนหน้านี้ ในเดือนกรกฎาคม 2560 Ford ได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม จากการตรวจสอบระบุว่า ถุงลมนิรภัย เกิดระเบิดด้วยตัวเอง ทำให้ผู้ขับถึงแก่ชีวิต และเคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งในเดือนมกราคม 2559 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 คนเช่นกัน Ford แถลงว่า “Ford ขอแสดงความเสียใจในความสูญเสียที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต” รถกระบะรุ่นนี้ส่วนใหญ่จำหน่ายในอเมริกาเหนือ มีรถจำนวน 190 คันเท่านั้น ที่ส่งไปจำหน่ายในแคนาดา ภาครัฐ ยกเอากรณีอุบัติเหตุเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย Takata ออกมาเผยแพร่เมื่อปี 2557 ทำให้เกิดการเรียกรถของค่ายรถยนต์เข้ารับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ โดยภาพรวมแล้ว มีรถยนต์จำนวนอย่างน้อย 100 ล้านคัน จากทุกค่ายรถยนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีอุบัติเหตุถุงลมนิรภัยนี้ โดยมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เฉพาะในสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว สถาบันเพื่อความปลอดภัย กล่าวว่ามีรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบ 34 ล้านคัน และจำนวนถุงลมนิรภัยที่ได้รับผลกระทบ 46 ล้านใบ