มาซดา 2 โตไม่หยุด โกยยอด ขึ้นแท่นอันดับ 1

มาซดา เผยตัวเลขยอดขายเดือนสิงหาคม โกยยอดแรงต่อเนื่องทะลุ 4,381 คัน โตขึ้น 23 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงกว่า 6 % ท้าทายบทพิสูจน์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อการขับขี่อัจฉริยะ จี-เวคเตอริง คอนทโรล (G-Vectoring Control) หรือ GVC สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งของประเทศไทย โดยเฉพาะ มาซดา 2 และ 3 ที่กอดคอกันยิ้มรับฤดูฝนอย่างชุ่มฉ่ำ โดยเฉพาะ มาซดา 2 ได้รับความนิยมสูงสุด มียอดขายสูงถึง 2,800 คัน เติบโตกว่า 53 % ขึ้นแท่นครองอันดับ 1 รถยนต์นั่งบีคาร์ รวมกับอีโคคาร์ ส่วน ซีเอกซ์-5 ขายทะลุ 442 คัน สูงสุดในรอบ 20 เดือน เตรียมกระตุ้นต่อเดือนกันยายนด้วยแคมเปญ Mazda Skyactive Day เพียง 9 วันเท่านั้นทุกโชว์รูมทั่วประเทศ ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของทุกๆ ปีถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน ธุรกิจหลายๆ ประเภทต่างตกอยู่ในสภาพของการชะลอตัว เพราะเป็นช่วงย่างเข้าสู่ฤดูฝน แต่สำหรับ มาซดา ถือเป็นปีที่แรงไม่หยุด เดือนสิงหาคม มียอดขายสูงถึง 4,381 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี โดยโมเดลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังคงเป็นสปอร์ทขวัญใจวัยรุ่นยุคใหม่ มาซดา 2 มียอดขายสูงถึง 2,800 คัน เติบโตสูงถึง 53 % มียอดขายเกิน 2,500 คัน/เดือน เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ รถอเนกประสงค์เอสยูวี มาซดา ซีเอกซ์-5 ที่หลังจากประกาศพโรโมชันสุดพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0 % และผ่อนนานถึง 6 ปี อีกทั้งยังมอบฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance และฟรีค่าบำรุงรักษา หรือ Mazda Care โดนใจลูกค้าที่ชื่นชอบรถสไตล์ครอสส์โอเวอร์ ส่งผลให้ยอดขายพุ่งทะลุถึง 442 คัน เติบโตสูงสุดถึง 32 % ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการไมเนอร์เชนจ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 เป็นต้นมา ส่วนที่เติบโตไม่แพ้กัน คือ มาซดา 3 หลังจากมีการปรับโฉมใหม่เพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่สกายแอคทีฟ วีฮิเคิล-ไดนามิคส์ และระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ จี-เวคเตอริง คอนทโรล รวมทั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยระดับโลก ส่งผลให้กลับมาได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มียอดขายสูงถึง 397 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 35 % ส่วนฟรีสไตล์ครอสส์โอเวอร์ มาซดา ซีเอกซ์-3 ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันมียอดขายสูงถึง 247 คัน รวมทั้งรถสปอร์ทโรดสเตอร์ มาซดา เอมเอกซ์-5 มียอดขาย 4 คัน ส่วนของตลาดรถพิคอัพ มาซดา บีที-50 พโร มียอดขายอยู่ที่ 491 คัน เป็นไปตามเป้าที่วางไว้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 500 คัน ส่วน 8 เดือนแรกของปี 2560 มียอดขายสูงถึง 32,191 คัน เพิ่มขึ้น 14 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มียอดขายรวม 28,184 คัน โดยรุ่นที่มียอดขายสูงสุดยังคงเป็นรุ่น มาซดา 2 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 19,598 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 29 % ตามมาด้วยรถพิคอัพ มาซดา บีที-50 พโร มียอดขายจำนวน 4,042 คัน  ลดลงเล็กน้อย 11 % มาซดา 3 จำนวน 3,452 คัน เพิ่มขึ้น 25 % มาซดา ซีเอกซ์-3 จำนวน 2,722 คัน ลดลง 24 % ส่วน มาซดา ซีเอกซ์-5 จำนวน 2,361 คัน เพิ่มขึ้น 12 % และรถสปอร์ท เอมเอกซ์-5 จำนวน 16 คัน ลดลง 27 % จากภาพรวมแล้วนับว่าเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าในปี 2560 มาซดา จะมียอดขายเป็นตามเป้าที่ต้้งไว้ คือ 51,000 คัน ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลายคนอาจมองว่าช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซัน การกระตุ้นตลาดทำได้ค่อนข้างยาก และไม่เกิดการตอบสนอง แต่ มาซดา กลับมองตรงกันข้าม ในขณะที่ไม่มีใครออกมาทำอะไรแต่หากเราทำตลาดและกระตุ้นอย่างเต็มที่จะส่งผลให้สร้างการรับรู้ได้ดีิย่ิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เดือนกันยายน ที่ผ่านมา มาซดา ยังคงเดินหน้ากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของแคมเปญโฆษณาส่งเสริมการขาย หลังจากที่เมื่อเดือนกรกฎาคม มาซดา เฉลิมฉลองความสำเร็จของยอดขายรถยนต์ มาซดา ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เกิน 100,000 คัน ในประเทศไทย ภายใต้แคมเปญ ”Mazda SKYACTIV Celebration 100,000+” ดังนั้นจึงเกิดแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่องในเดือนกันยายน ถือเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จดังกล่าว เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงความไว้วางใจต่อยนตรกรรมสกายแอคทีฟ และเพื่อกระตุ้นยอดขายของ มาซดา ทุกรุ่น มาซดา มอบแคมเปญต่อเนื่อง ภายใต้แคมเปญ ”Mazda SKYACTIV Day” ระหว่างวันที่ 9 - 17 กันยายน 2560 โดยลูกค้าที่จองรถ มาซดา รุ่นใดก็ได้ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป รับทันที กล้อง Active Camera มูลค่า 3,900 บาท นอกจากนี้ยังมอบความพิเศษอีกหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถ มาซดา ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยต่ำ รับทันทีประกันภัยชั้น 1 และอื่นๆ อีกมากมายตามเงื่อนไขที่กำหนดในแต่ละรุ่น