ค่ายรถหลายเจ้ามีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ทำตลาดในปัจจุบัน แม้สัดส่วนของยอดจำหน่ายมีอัตราส่วนไม่มากนัก แต่แนวโน้มตลาดที่กำลังโตวันโตคืน บวกกับกระแส “รักษ์โลก” ทำให้รถยนต์ประเภทนี้ได้รับความสนใจมากขึ้น หนึ่งในนั้น คือ Nissan Leaf ทายาทลำดับที่ 2 ที่พัฒนาประสิทธิภาพขึ้นมาอีกขั้น
รูปทรงภายนอกของ Nissan Leaf รุ่นล่าสุด เน้นความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย เส้นสายคมเข้มกว่ารุ่นก่อนหน้า แฝงเอกลักษณ์ของค่าย Nissan ยุคปัจจุบันในหลายส่วน เช่น กระจังหน้าโครเมียม ทรงตัว U ไฟท้ายรูปทรงบูเมอร์แรง กระจังหน้าแบบเรืองแสงสีฟ้า จุดชาร์จไฟฟ้าอยู่บริเวณด้านบนของโลโก Nissan เส้นสายโดยรวมไม่ล้ำสมัยจนเกินไป แลดูคุ้นตา เข้าถึงง่าย สมกับเป็นรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน จำหน่ายในวงกว้าง มิติตัวถัง ความยาว 4,480 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,540 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. เทียบเท่ากับรถยนต์ระดับ ซี-เซกเมนท์ (เช่น Honda Civic หรือ Toyota Corolla Altis ของบ้านเรา) แม้เป็นตัวถังแฮทช์แบค แต่ Nissan Leaf รุ่นล่าสุด มีอัตราการลู่ลมที่น่าพอใจที่ 0.28 Cd น้ำหนักตัวรถเปล่า อยู่ที่ 1,490-1,520 กก. แม้จะติดตั้งแบทเตอรีขนาดใหญ่ก็ตาม
ห้องโดยสาร คือ หนึ่งในจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้าพอสมควร หันมาเน้นความเรียบง่าย ตามแบบฉบับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป (ต่างจากแนวทางของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ายุคก่อนหน้าที่ต้องพยายามสร้างภาพลักษณ์ความ “ล้ำสมัย” มากจนเกินไป) คอนโซลกลางเรียบง่าย ติดตั้งหน้าจอขนาด 7 นิ้ว แสดงผลระบบความบันเทิง และเนวิเกเตอร์ พวงมาลัยทรง 3 ก้าน เอกลักษณ์ของ Nissan หลายรุ่น (รวมถึง Note ที่จำหน่ายในบ้านเรา) เบาะหลังพับเก็บได้แบบ 60:40 แต่ไม่เป็นพื้นราบ เนื่องจากตรงกลางของตัวถังเป็นที่ติดตั้งชุดแบทเตอรี พื้นที่เก็บสัมภาระที่ 435 ลิตร
ขุมพลังขับเคลื่อนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,283-9,795 รตน. (การปั่นเพื่อส่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้รอบสูงเป็นธรรมดา แตกต่างจากรอบเครื่องยนต์ของเครื่องยนต์สันดาป) แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. ที่ 0-3,283 รตน. นับเป็นจุดเด่นของมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดตั้งแต่เริ่มออกตัว ระยะทำการเมื่อชาร์จไฟฟ้าเต็ม สามารถแล่นได้ถึง 400 กม. ระยะเวลาการชาร์จไฟฟ้าแบบ 3 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 16 ชม. และแบบ 6 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 8 ชม. หากชาร์จแบบเร่งด่วน (Quick Charge) จะใช้เวลาเพียง 40 นาที สำหรับระดับแบทเตอรีที่ 80 % ขณะที่แบทเตอรีเป็นแบบ Lithium-Ion ความจุ 40 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
Nissan Leaf ยังติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ยุคใหม่ มีชื่อเรียกว่า ProPilot รวมเอาระบบล้ำสมัยต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติ ระบบช่วยจอด ระบบครูส คอนทโรลแบบแปรผันความเร็ว และระบบเตือนจุดบอดรอบคัน ฯลฯ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดขณะใช้งาน
ราคาเริ่มต้นของ Nissan Leaf อยู่ที่ 3,150,360 เยน หรือประมาณ 960,730 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) โอกาสมาทำตลาดในบ้านเรายังมีความเป็นไปได้ แต่เชื่อว่าราคาจะสูงกว่า 1,000,000 บาทอย่างแน่นอน
Model | Start Price (THB) |