หลายท่านคงเคยได้ยินข่าวว่า Ford ใช้อลูมิเนียมรีไซเคิลในการผลิตกระบะท้าย สำหรับรถที่จำหน่ายในอเมริกา เราจะมาดูกันว่าต้องนำอลูมิเนียมปริมาณมากมายมหาศาลแค่ไหนมารีไซเคิลเป็นท่ี่ทราบกันดีว่า แหล่งวัตถุดิบที่จะนำมาทำเป็นอลูมิเนียมนั้นมีจำกัด ไหนจะเรื่องข้อจำกัดทางคุณภาพของอลูมิเนียม และยังต้องประสบปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทำให้ Ford ต้องหาวิธีนำเอาอลูมิเนียมมารีไซเคิล เพื่อนำกลับไปใช้ใหม่อีกครั้ง แม้ว่าอลูมิเนียมจะเป็นวัสดุที่มีมากเป็นอันดับ 3 รองจาก ออกซิเจน และซิลิคอน แต่ก็เป็นวัสดุที่ค่ายรถยนต์ต่างพากันเลือกใช้ในการผลิตยานยนต์ ติดตั้งในส่วนต่างๆ ของรถยนต์กัน เพราะน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่น และค่ายรถยนต์ทั้งหลาย ต่างก็ต้องหาวิธีกำจัด หรือรีไซเคิลอลูมิเนียมที่ไม่ใช้แล้วทั้งนั้น แต่สำหรับ Ford การนำอลูมิเนียมมารีไซเคิล กระทำในระบบปิดมิดชิด ซึ่งพัฒนาโดย Chip Conrad Chip Conrad วิศวกรด้านขึ้นรูปวัสดุ ที่ FoMoCo เป็นผู้พัฒนาระบบขึ้นมา ทำให้ Ford เลือกใช้งานวิธีการรีไซเคิลในโรงงาน 3 แห่ง Dearborn, Kentucky และ Buffalo ที่ทำให้สามารถประหยัดได้เป็นจำนวนมาก โดยการขึ้นรูปอลูมิเนียมแต่ละครั้ง จะเกิดเศษชิ้นส่วนด้านข้างๆ รอบวัสดุที่ขึ้นรูปนั้น ระบบของ Chip Conrad จะนำชิ้นส่วนที่ไม่ใช้งานมาผ่านกระบวนการทำให้เล็กลง ด้วยคอมพิวเตอร์ ที่ควบคุมประตูต่างๆ ในกระบวนการนั้น รวมทั้งสามารถแยกเกรดอลูมิเนียมได้ด้วย "ความพยายามในการรีไซเคิล นำไปสู่การประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นผลดีต่อ ลูกค้าผู้ใช้รถกระบะของเรา" Chip Conrad อธิบาย "มันช่วยให้เราสามารถผลิตรถกระบะในราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก ด้วยประสิทธิภาพของรถ และความสามารถที่ได้รับ" Ford เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ Ecoboost และติดตั้งในรถกระบะ F-Series ทำให้ FoMoCo มีจุดขาย คือ การรีไซเคิลอลูมิเนียมได้อย่างสะอาด เหมาะสม ในสายการผลิต อลูมิเนียม ราว 2.3 ล้านกก. เกรดสำหรับราชการทหาร ได้รับการรีไซเคิลจากเศษชิ้นส่วนทุกสัปดาห์ และหากคำนวณในการรีไซเคิลต่อเดือน วัสดุที่รีไซเคิลสามารถใช้ผลิตเครื่องบินเจท 51 ลำ หรือทำเป็นกระบะของ F-Series มากกว่า 37,000 คัน "มันไม่เพียงเป็นการทำธุรกิจที่ได้ประโยชน์สำหรับค่าย Ford เท่านั้น" Chip Conrad กล่าว "มันช่วย Ford ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก"