ธุรกิจ
นิสสัน จับมือยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ยกระดับการผลิตรถยนต์

แขนหุ่นยนต์รุ่น UR10 ที่ นิสสัน มอเตอร์
นิสสัน มอเตอร์ จำเป็นต้องยกระดับกระบวนการผลิตของโรงงานในโยโกฮามา ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังจำเป็นต้องบริหารจัดการค่าแรงของกำลังคนที่มีอายุมากขึ้นและการสูญเสียบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
นากามูระ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเครื่องยนต์ของโรงงาน กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องใช้หุ่นยนต์ขนาดใหญ่มากพอที่จะยก ส่วนควบรถยนต์ท่อร่วมไอดี (Intake Manifolds) ขนาดใหญ่ได้ ซึ่งมีขนาดถึง 6 กก. เมื่อเปรียบเทียบกับหุ่นยนต์ของบริษัทอื่นๆ แล้ว เราจึงเลือกรุ่น UR10 เนื่องจากความได้เปรียบในแง่ของราคาสำหรับหุ่นยนต์ตัวเดียว รวมไปถึงความสามารถในเรื่องการรับน้ำหนักได้ดีด้วย ในกระบวนการติดตั้งท่อร่วมไอดีนั้น มีเพียงแขนหุ่นยนต์รุ่น UR10 ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 10 กก. เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เราพิจารณา”
โคบอทส์ของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เป็นแขนหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้ในงานอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถใช้ในกระบวนการผลิตอัตโนมัติซึ่งรองรับน้ำหนักได้ถึง 10 กก. และงานที่ต้องอาศัยความละเอียด แม่นยำ และความไว้วางใจได้ โคบอทส์ออกแบบมาให้มีรัศมีเอื้อมถึง 1,300 มม. หรือประมาณ 1.3 ม. จึงสามารถทำงานในพื้นที่กว้างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถประหยัดเวลาในสายการผลิตที่มีระยะทางเป็นปัจจัยสำคัญได้ โคบอทส์ของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์สามารถตั้งโพรแกรมและตั้งค่าได้ง่าย โดยออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกับมนุษย์ เพื่อให้การทำงานที่สลับซับซ้อนกลายเป็นงานที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น หรือเป็นงานที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งทางร่างกายมากๆ
หลังจากที่พิจารณาเรื่องความปลอดภัยและคุณสมบัติต่างๆ ที่ต้องการแล้ว นิสสัน จึงตัดสินใจใช้แขนหุ่นยนต์รุ่น UR10 ที่สามารถติดตั้งและตั้งโปรแกรมได้ง่าย และพร้อมใช้งานได้ภายใน 1 สัปดาห์ เมื่อนำแขนหุ่นยนต์รุ่น UR10 มาใช้งานที่นิสสัน พบว่าช่วยลดเวลาในการผลิตลงได้ ตลอดจนช่วยให้พนักงานไม่ต้องทำงานเดิมๆ ซ้ำซากจำเจ และไปทำงานในสายการผลิตอื่นเพื่อสั่งสมประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์แทน
โอนิชิ หัวหน้าแผนกเครื่องยนต์ย่อย กล่าวว่า “เราสามารถตอบสนองต่อความล่าช้าในการผลิตได้อย่างฉับไว เนื่องจากเราสามารถเคลื่อนย้าย UR10 ได้อย่างสะดวกไปใช้งานในกระบวนการใดก็ได้ภายในโรงงานที่พบว่าเกิดปัญหา เราวางแผนที่จะใช้ โคบอทส์ เพิ่มเติมโดยผสานสมรรถนะของโรงงานเข้ากับความสามารถด้านวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งจะเพิ่มระดับการใช้ โคบอทส์ของเราให้มากยิ่งขึ้น”


