ในจำนวนค่ายรถยนต์เยอรมัน BMW เป็นค่ายที่ให้ความสำคัญกับการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด โดยเริ่มแนะนำรถไฟฟ้าในเครือ ในชื่อรุ่น “i" ซึ่งหมายถึงการเสียบชาร์จไฟฟ้า ในปี 2556 และจำหน่ายควบคู่ไปกับรถสปอร์ทคูเป ไฮบริด-ไฟฟ้า i8
จากนั้นก็เพิ่มจำนวนรุ่นของรถไฮบริด-ไฟฟ้า ในรถรุ่นที่จำหน่ายอยู่เดิม และระบุว่าจะเพิ่มรุ่นให้ได้มากกว่านี้ ภายในปีหน้า โดย BMW ประเมินว่าจะสามารถจำหน่ายรถไฟฟ้า และรถไฮบริด-ไฟฟ้า ให้ได้ 100,000 คัน ภายในปี 2560 โดย Harald Krueger ซีอีโอ ให้สัมภาษณ์ที่เมืองมิวนิค
Automotive News รายงานข่าวการสัมภาษณ์กับสื่อเยอรมนีดังกล่าว โดยจำนวนรถที่จำหน่ายถึง 100,000 คันนั้น เท่ากับจำนวนที่ BMW จำหน่ายรถไฟฟ้า และรถไฮบริด-ไฟฟ้า ได้เมื่อ 3 ปีก่อน
BMW เพิ่มจำหน่ายรถไฟฟ้า i3 ในยุโรป เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 และเพิ่งจำหน่ายทั้งรถไฟฟ้าและรถไฮบริด-ไฟฟ้า ได้เกิน 100,000 คัน เมื่อเดือนก่อนนี้เอง
BMW ระบุว่า นี่เป็น Phase 2 ของแผนการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีเป้าหมายจะเพิ่มยอดการขายทั่วโลกให้ได้ 15-20 % ภายในปี 2568 โดยมีแผนงานจะเพิ่มรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี X3 และ Mini ให้มีรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นยังจะเพิ่มรุ่น i8 เปิดประทุน และซีดานระดับหรู ที่ยังใช้รหัส iNext โดยยังไม่ได้ต้ังชื่อรุ่น และครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก เพื่อช่วยเพิ่มระยะทาง i5
ในสหรัฐอเมริกา BMW จำหน่ายรถไฮบริด-ไฟฟ้า ในรุ่น 3-Series และ 7-Series รวมทั้งครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี X5 ภายในชื่อรุ่นย่อย i Performance ซึ่งหมายถึงรถไฮบริด-ไฟฟ้า โดยใช้รถรุ่นเดิม มาทำเป็นไฮบริด-ไฟฟ้า
ส่วนในยุโรปและประเทศจีน BMW จำหน่ายรถรุ่น 2-Series Active Tourer และครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี X1

