เคยเป็นข่าวมานานพอควรแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นวิ่งทดลองที่ เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ไม่มีผู้ขับขี่ ไม่มีแป้นคันเร่ง ไม่มีแป้นเบรค ทำงานด้วยเซนเซอร์และซอฟท์แวร์ หากในกรณีฉุกเฉิน ผู้ที่อยู่ในรถไฟฟ้าขนาดเล็กนี้ จะมีปุ่มกดสีแดงเพื่อหยุดรถเท่านั้น
แม้ว่าการทดลองด้านยานยนต์ไร้คนขับของค่ายรถยนต์ จะก้าวหน้าไปมาก ขณะเดียวกัน ระบบการจราจรก็ยังมีความต้องการการขนส่งมวลชนอยู่ ที่จะสามารถเดินทางไปในที่ต่างๆ ได้ตามพโรแกรมที่ตั้งไว้ โดยยังคงเป็นลักษณะของรถยนต์ มีล้อ 4 ล้อ ไม่จำเป็นต้องมีผู้ขับขี่ เพื่อการขนส่งผู้คนไปในทิศทางที่กำหนด และลดปริมาณรถยนต์ที่ออกมาวิ่งบนถนน
Harri Santamala ผู้ประสานงานโครงการเฮลซิงกิ กล่าวว่า ผลของการทดลองนี้ จะช่วยให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในเมือง ลดความจำเป็นในการใช้รถยนต์ได้ในอนาคต โดยรถโดยสารขนาดเล็กนี้ สามารถใช้งานได้ในที่สาธารณะ ด้วยการตั้งพโรแกรมทำงานไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจนำไปใช้งานในมหาวิทยาลัย รับส่งนักศึกษาระหว่างตึกหนึ่งไปยังอีกตึกหนึ่ง หรือในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง
ปัจจุบัน เฮลซิงกิมีโครงการทดลองการให้บริการรถโดยสารในถนนสาธารณะ โดยใช้รถบัสที่ไม่มีคนขับ ขณะที่ในสวิทเซอร์แลนด์ ได้เริ่มทำการทดลองมาก่อนหน้าแล้วหลายเดือน แม้ว่าเคยเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้ต้องหยุดให้บริการมาลายเดือนก็ตาม
โครงการรถโดยสารสาธารณะ Smart Mobility เป็นความร่วมมือกันของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาล และสหภาพยุโรป ในชื่อ Sohjoa โครงการ 2 ปี เงินทุน 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 36 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวของผู้คน ซึ่งผลพลอยได้ที่ตามมา คือ ลดปัญหาการจราจร และมลภาวะในอากาศ
รถโดยสาร Sohjoa สามารถบรรทุกผู้โดยสารทั้งนั่งและยืน 12 คน ทดลองวิ่งระยะทาง 400 เมตร ในเขต Hernesaari และไปเลี้ยวกลับลำที่ปลายทาง เป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างภัตตาคารหลายแห่งกับร้านเซานาที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมีผู้ใช้บริการพอควร โดยเส้นทางแรกที่ให้บริการนี้ เพื่อการศึกษาสภาพการจราจรในหลายรูปแบบ ในแต่ละช่วงเวลาของวัน
ระบบการทำงานของรถโดยสาร Sohjoa จะแตกต่างกับระบบที่พัฒนาโดย Google หรือบริษัทอื่นๆ ที่สามารถเดินทางไปได้ในสถานที่ต่างๆ ขณะที่ Sohjoa ซึ่งสร้างโดยบริษัทฝรั่งเศส วิ่งไปในเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยควบคุมเส้นทาง การเร่งและทิศทางของรถ จากกล่องซอฟท์แวร์ในรถ ด้วยแสงเลเซอร์ เซนเซอร์ และจีพีเอส สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้ด้วยการปรับซอฟท์แวร์ภายในรถ
บทความแนะนำ

